Push Notifications สำหรับอีคอมเมิร์ซ: เพิ่มการมีส่วนร่วม ยอดขาย และความภักดีของลูกค้า

หากจะพูดถึงสภาพตลาดในปัจจุบัน ต้องบอกเลยว่าความสนใจของลูกค้ากระจายตัวสูง และการแข่งขันก็รุนแรงมาก ช่องทางการตลาดแบบเดิม ๆ อย่างอีเมลหรือ SMS เริ่มเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ถ้าธุรกิจอยากเติบโต จำเป็นต้องมีช่องทางสื่อสารที่รวดเร็ว ตรงจุด และตอบโจทย์ความต้องการแบบทันที ซึ่งก็คือ การแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซนั่นเอง

ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกวิธีใช้การแจ้งเตือนแบบพุชในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และที่สำคัญ เรามีเทมเพลตตัวอย่างที่สามารถคัดลอกและนำไปใช้ได้ทันที ครอบคลุมทุกความต้องการของธุรกิจคุณ

ทำไมธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณควรใช้การแจ้งเตือนแบบพุช

เมื่อเข้าใจถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการสื่อสารโดยตรงและทรงพลังในอีคอมเมิร์ซแล้ว คำถามก็ชัดเจนขึ้นทันที

ทำไมการแจ้งเตือนแบบพุชถึงเป็นช่องทางที่ทรงพลังกว่าอีเมล WhatsApp หรือ SMS? เราจะอธิบายให้เห็นว่าการแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บสำหรับอีคอมเมิร์ซสร้างข้อได้เปรียบเฉพาะให้แบรนด์ของคุณอย่างไร

อัตราการมีส่วนร่วมและการแปลงที่เหนือกว่า

เมื่อเทียบกับอัตราการเปิดอีเมลหรือการคลิก SMS แล้ว การแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บสำหรับอีคอมเมิร์ซมักได้อัตราการเปิดและคลิกสูงกว่าอย่างต่อเนื่อง ระดับการมีส่วนร่วมนี้ทำให้การแจ้งเตือนแบบพุชกลายเป็นช่องทางสำคัญสำหรับทุกแบรนด์อีคอมเมิร์ซ

ตัวอย่างเช่น ร้านแฟชั่นออนไลน์สามารถส่งการแจ้งเตือนแบบพุชด้วยข้อความ "Flash Sale: ลด 40% 2 ชั่วโมงเท่านั้น" การแจ้งเตือนที่เห็นได้ทันทีนี้สร้างความเร่งด่วนและกระตุ้นให้เกิดการซื้อแบบเรียลไทม์ได้มากขึ้น ต่างจาก WhatsApp ที่ต้องขออนุญาตและเบอร์โทรศัพท์ การแจ้งเตือนแบบพุชแค่ขออนุญาตจากเบราว์เซอร์หรือแอปเท่านั้น ซึ่งผู้ใช้มักจะยินยอมได้ง่ายกว่า

ช่องทางตรงถึงหน้าจอลูกค้า

แน่นอนว่าการใช้การแจ้งเตือนแบบพุชในแคมเปญอีคอมเมิร์ซช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วทันใจ อีเมลอาจถูกกลืนหายไปในกล่องจดหมายที่แน่น ขณะที่ SMS อาจดูรุกล้ำเกินไป แต่การแจ้งเตือนแบบพุชจะถูกส่งตรงถึงหน้าจออุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ทันที ตำแหน่งนี้ทำให้เป็นเครื่องมือโปรโมชันที่มีคุณค่า เพราะผู้ใช้มีแนวโน้มจะตอบสนองทันที โดยเฉพาะกับอีคอมเมิร์ซ เช่น แจ้งข่าวสินค้าใหม่ ลดราคา หรือเตือนตะกร้าค้างซื้อ

บริหารวงจรชีวิตลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ

การแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซโดดเด่น เพราะสามารถนำไปใช้ได้ตลอดทุกช่วงของเส้นทางลูกค้า

ไม่เหมือน WhatsApp หรือ SMS การแจ้งเตือนแบบพุชช่วยให้คุณสร้างแคมเปญดูแลลูกค้าแบบครบวงจรในวงกว้างได้ง่ายขึ้น ช่วยให้แบรนด์ของคุณยังคงมีความสำคัญในทุกช่วงของเส้นทางลูกค้า

การแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซที่คุ้มค่าและใช้งานง่าย

ความจริงคือ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้ความสำคัญกับ ROI อย่างมาก เมื่อเทียบกับต้นทุนต่อข้อความของ SMS หรือ WhatsApp Business API แล้ว การแจ้งเตือนแบบพุชมีต้นทุนที่คุ้มค่ากว่ามาก แพลตฟอร์มอย่าง EngageLab ยังช่วยให้คุณตั้งแคมเปญอัตโนมัติ แบ่งกลุ่มผู้ใช้ได้แม่นยำ และทดสอบ A/B เพื่อเพิ่ม ROI ได้สูงสุด นี่คือเหตุผลสำคัญที่คุณควรเรียนรู้วิธีใช้การแจ้งเตือนแบบพุชในอีคอมเมิร์ซ

วิธีใช้การแจ้งเตือนแบบพุชในอีคอมเมิร์ซ: กลยุทธ์พร้อมเทมเพลต

พลังที่แท้จริงของการแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซอยู่ที่การนำไปใช้ให้สอดคล้องกับเส้นทางลูกค้า ในส่วนนี้ เราจะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยเทมเพลตที่ครอบคลุม 4 ช่วงของเส้นทางลูกค้า สามารถคัดลอกไปใช้ได้ทันที เลือกเทมเพลตที่เหมาะกับธุรกิจแล้วนำไปปรับใช้ได้เลย

#1 ช่วงดึงดูดและกระตุ้นการเริ่มต้น: ต้อนรับและมอบสิทธิพิเศษ

เมื่อผู้ใช้สมัครสมาชิกหรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ครั้งแรก เป้าหมายคือการสร้างการมีส่วนร่วมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ความสนใจจะหายไป ในกรณีนี้ คุณสามารถส่งการแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บสำหรับอีคอมเมิร์ซเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อครั้งแรกได้ทันที

#2 ขั้นตอนเพิ่ม Conversion & รายได้: ดึงกลับและกระตุ้นยอดขายด้วยการแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซ

การเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าต้องใช้การกระตุ้นที่เหมาะสมในเวลาที่ใช่ การสื่อสารผ่านการแจ้งเตือนแบบพุชถือเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการดึงลูกค้ากลับมาหรือเสนอขายสินค้าที่อาจสนใจ

#3 ขั้นตอนสร้างความสัมพันธ์และความภักดี: ดึงกลับและสร้างความประทับใจด้วยการแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซ

เมื่อคุณสามารถโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการรักษาการมีส่วนร่วมและสร้างความภักดีให้กับแบรนด์ วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ คือการมอบคุณค่าและความพิเศษ เทมเพลตการแจ้งเตือนแบบพุชเหล่านี้ตอบโจทย์ได้อย่างดี

#4 ช่วงโปรโมชั่น & เคลียร์สต็อก: สร้างความเร่งด่วนด้วยการแจ้งเตือนแบบพุชที่ตรงเป้าหมายสำหรับการขายอีคอมเมิร์ซ

การแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซเหมาะอย่างยิ่งในการกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงโปรโมชั่นตามฤดูกาลและการเคลียร์สต็อก

แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุชในอีคอมเมิร์ซ

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด คุณควรค้นหาและปฏิบัติตามแนวทางที่พิสูจน์แล้ว EngageLab ได้ออกแบบแนวทางที่มีประสิทธิภาพไว้ให้คุณนำไปใช้เป็นคู่มือ ในแนวทางนี้ คุณจะพบกับ 6 แนวปฏิบัติสำคัญดังต่อไปนี้:

#1 การปรับแต่งเฉพาะบุคคลคือหัวใจของการแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซที่มีประสิทธิภาพสูง

ข้อความทั่วไปมักได้ผลลัพธ์ต่ำอย่างปฏิเสธไม่ได้ ใช้ระบบปรับแต่งเฉพาะบุคคลแบบไดนามิกของ EngageLab เพื่อใส่ชื่อลูกค้าและองค์ประกอบเฉพาะบุคคลอื่น ๆ ลงในข้อความแจ้งเตือนแบบพุชและแคมเปญอีคอมเมิร์ซของคุณโดยตรง

ตัวอย่าง: "Alex, คุณไม่ควรพลาดสิ่งนี้!" ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง

#2 การเลือกเวลาส่งที่เหมาะสมสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บ

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การแจ้งเตือนแบบพุชควรมาถึงเมื่อกลุ่มเป้าหมายของคุณมีการใช้งานมากที่สุด ดังนั้นจึงสำคัญมากที่คุณจะต้องควบคุมเวลาที่ลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือน โดยเฉพาะหากคุณมีฐานลูกค้าทั่วโลก ด้วย EngageLab คุณสามารถตั้งเวลาแคมเปญ ส่งข้อความทันที หรือส่งแจ้งเตือนแบบวนซ้ำได้ แต่ฟีเจอร์ Smart Push ที่ล้ำสมัยจะพลิกโฉมกลยุทธ์ของคุณ เพราะจะเก็บข้อมูลของลูกค้าแต่ละรายและส่งการแจ้งเตือนแบบพุชอีคอมเมิร์ซในเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละคน

#3 เทคนิคการเขียนข้อความแจ้งเตือนแบบพุชให้น่าสนใจสำหรับอีคอมเมิร์ซ

การแจ้งเตือนแบบพุชจะสร้างความประทับใจแรกได้ดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวิธีนำเสนอด้วยเช่นกัน หากต้องการให้ผู้ใช้สนใจมากขึ้น คุณสามารถใช้กลยุทธ์หลากหลาย อันดับแรก ควรตั้งชื่อเรื่องไม่เกิน 40 ตัวอักษร พร้อมเนื้อหาที่ดึงดูดใจ จากนั้นเพิ่มความน่าสนใจด้วยรูปภาพ, GIF หรือภาพสินค้า โดยใช้ฟีเจอร์รองรับสื่อของ EngageLab เพียงแค่วางลิงก์รูปภาพหรือไอคอนที่ต้องการ ก็สามารถแสดงในข้อความแจ้งเตือนได้ทันที

#4 การแบ่งกลุ่มเพื่อการกำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำใน Web Push Notifications

การส่งข้อความแบบเดียวถึงทุกคนมักไม่ค่อยได้ผล ดังนั้น การกำหนดเป้าหมายสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บไซต์จึงสำคัญมาก EngageLab มีเครื่องมือขั้นสูงสำหรับการกำหนดเป้าหมาย ช่วยให้คุณส่งข้อความถึงผู้ใช้ที่เหมาะสม สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายล่วงหน้าหรือใช้รหัสลงทะเบียนเฉพาะก็ได้

#5 ทดสอบ A/B เพื่อค้นหาสิ่งที่ได้ผลดีที่สุด

การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยอาจสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ การทดสอบ A/B จึงเป็นกระบวนการสำคัญสำหรับแบรนด์ของคุณ ด้วยฟีเจอร์ A/B Testing ในตัวของ EngageLab คุณสามารถทดสอบความแตกต่างของชื่อเรื่อง เนื้อหา หรือปุ่ม CTA เพื่อค้นหาข้อความที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

#6 เลือกความถี่ที่เหมาะสมสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุชในอีคอมเมิร์ซ

หากส่งถี่เกินไป ผู้ใช้อาจเลือกปิดรับการแจ้งเตือน ดังนั้นควรใส่ใจสถิติการใช้งาน โดยทั่วไปแนะนำให้ส่งการแจ้งเตือนแบบพุชเพื่อโปรโมทสินค้า 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่หากสถิติใน EngageLab แสดงว่าประสิทธิภาพไม่ดี อย่าลังเลที่จะทดลองเปลี่ยนความถี่ดู

วัดผลกระทบของการแจ้งเตือนแบบพุชต่อความสำเร็จของอีคอมเมิร์ซ

ในส่วนนี้จะเน้นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บไซต์ประสบความสำเร็จสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ

ตัวชี้วัดธุรกิจสำคัญสำหรับติดตามแคมเปญการแจ้งเตือนแบบพุชในอีคอมเมิร์ซ

หากต้องการประเมินความสำเร็จของกลยุทธ์ คุณควรติดตามตัวชี้วัดที่ถูกต้อง โดยตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุชในอีคอมเมิร์ซ ได้แก่

แบรนด์อีคอมเมิร์ซประสบความสำเร็จด้วยการแจ้งเตือนแบบพุชได้อย่างไร

EngageLab: องค์ประกอบสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ

สรุปแล้ว การแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซเป็นเครื่องมือที่ควรนำมาใช้ในกลยุทธ์การตลาดของคุณ

ด้วย EngageLab และการแจ้งเตือนแบบพุชผ่านเบราว์เซอร์ คุณสามารถ:

• ปรับแต่งข้อความได้ในระดับจำนวนมาก
• ทำงานอัตโนมัติในทุกขั้นตอนของเส้นทางลูกค้า
• ติดตาม ROI ด้วยข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึก
• สร้างการสื่อสารที่น่าสนใจด้วยสื่อหลากหลายรูปแบบ
• ใช้เทคนิคการกำหนดกลุ่มเป้าหมายขั้นสูง

สร้างบัญชี EngageLab ของคุณฟรีวันนี้ เพื่อเริ่มต้นใช้งานการแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับอีคอมเมิร์ซ