ข้อเท็จจริง: มูลค่าตลาด Marketing Automation ทั่วโลกอยู่ที่ 6.65 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตเป็น 15.58 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
ขนาดตลาดที่ใหญ่มหาศาลนี้ หมายความว่า Marketing Automation ส่งผลกระทบต่อทุกประเภทและทุกขนาดขององค์กรทั่วโลก
ดังนั้น หากคุณสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับ B2B Marketing Automation เทรนด์ และความท้าทายหลักต่าง ๆ คุณมาถูกที่แล้ว!

ส่วนที่ 1: แนะนำ B2B Marketing Automation
มาเริ่มต้นสำรวจแนวคิดหลักของ B2B Marketing Automation กัน
B2B Marketing Automation คืออะไร?
B2B Marketing Automation คือการใช้ซอฟต์แวร์ Automation สมัยใหม่เพื่อทำงานการตลาดที่ซ้ำซ้อนให้เป็นอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อวิธีที่บริษัทมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเป้าหมาย

โครงสร้างพื้นฐาน IT ของแพลตฟอร์ม B2B Marketing Automation ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนของการสร้างโอกาสทางธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Automation ที่ขยายขนาดได้มากกว่าระบบการตลาดทั่วไป
ดังนั้น B2B Marketing Automation จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจในการบริหารแคมเปญการตลาดขนาดใหญ่ และเพิ่มโอกาสในการได้ลูกค้ามากขึ้น
ข้อดีของ B2B Marketing Automation
B2B Marketing Automation มอบประโยชน์มากมายให้กับองค์กร ทั้งด้านการขาย การตลาด การบริการ และผลกำไรรวม
- สร้างโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น: ด้วยซอฟต์แวร์ B2B Marketing Automation ที่เชื่อถือได้ คุณไม่ต้องค้นหาลีดเองแบบแมนนวลอีกต่อไป แต่สามารถสร้างลีดคุณภาพได้อย่างรวดเร็วและอัตโนมัติ
- พัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า: Marketing Automation ยังช่วยตอบคำถามลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและเฉพาะบุคคล ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าใหม่ และพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม
- สร้างการรับรู้แบรนด์: B2B Marketing Automation ยังช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์และดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ โดยการแจ้งให้พวกเขารู้จักบริการและสินค้าของคุณ
- เพิ่มทราฟฟิก: B2B Marketing Automation เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มทราฟฟิกให้ธุรกิจของคุณ โดยเชื่อมโยงสินค้าและบริการเฉพาะในโพสต์ต่าง ๆ
- ลดต้นทุนการตลาด: การทำงานการตลาดแบบอัตโนมัติยังช่วยลดต้นทุนการตลาดโดยรวมในระยะยาว
- เพิ่มประสิทธิภาพ: B2B Marketing Automation ช่วยเร่งกระบวนการทำการตลาดและทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ
ความแตกต่างหลักระหว่าง B2B กับ B2C Marketing Automation
เนื่องจากมีประเภทของ Marketing Automation ที่แตกต่างกัน จึงควรเข้าใจความแตกต่างระหว่าง B2B กับ B2C Marketing Automation อย่างชัดเจน เพื่อเลือกโซลูชันที่เหมาะสม ตารางต่อไปนี้สรุปความแตกต่างเหล่านี้:
คุณสมบัติ | B2B Marketing Automation | B2C Marketing Automation |
---|---|---|
กลุ่มเป้าหมาย | ผู้จัดการ หัวหน้าแผนก CEO และผู้มีอำนาจตัดสินใจ | ลูกค้ารายบุคคล |
ปัญหาหลัก | ความซับซ้อนของธุรกิจ ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และข้อจำกัดด้านงบประมาณ | ปัญหาเฉพาะและความต้องการของผู้ใช้ปลายทาง |
ประโยชน์สำคัญ | ประสิทธิภาพสูง ผลตอบแทนดี ขยายธุรกิจง่าย และสร้างโอกาสขายจำนวนมาก | เจาะกลุ่มเป้าหมายแม่นยำด้วยการตลาดแบบเฉพาะบุคคล ตอบโจทย์แต่ละคน |
เป้าหมาย | ปรับปรุงการดำเนินงานธุรกิจและเพิ่มกำไร | เพิ่มรายได้ด้วยการเจาะลูกค้ารายบุคคล |
ระยะเวลาของรอบการขาย | โดยปกติยาวและซับซ้อน รองรับความต้องการธุรกิจที่หลากหลาย | สั้นและเรียบง่าย |
ส่วนที่ 2: เทรนด์อุตสาหกรรม & ความท้าทายหลักของ B2B Marketing Automation
อุตสาหกรรมการตลาด B2B เป็นพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของเครื่องมือ B2B Marketing Automation และทำให้เกิดฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้คือเทรนด์สำคัญของการตลาด B2B ในปี 2025:
1. การทำงานอัตโนมัติด้วย AI
Generative AI คือเทรนด์เด่นของวงการเทคโนโลยีในปี 2025 แพลตฟอร์มอย่าง Gemini, Claude และ ChatGPT ได้รับความนิยมในหมู่นักการตลาดเพื่อนำมาใช้ในการทำงานอัตโนมัติด้านการตลาดและช่วยยกระดับผลลัพธ์ของแคมเปญ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Marketing Automation สำหรับ B2B Content Marketing ผ่าน ChatGPT หรือการใช้ AI image generators เพื่อสร้างและกระจายภาพที่น่าสนใจ Generative AI จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญและขับเคลื่อนเฟสถัดไปของ B2B Marketing Automation

ที่มา: https://act-on.com
2. การวิเคราะห์และจัดการข้อมูล
การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ รายงาน และการบริหารจัดการข้อมูล เป็นส่วนสำคัญของทุกแคมเปญ B2B Marketing Automation แพลตฟอร์มสมัยใหม่จึงมีฟีเจอร์ให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล
สิ่งนี้ช่วยให้กระบวนการเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงผู้บริหารระดับสูงได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย ทั้งนี้ วิธีการเก็บข้อมูลและการตลาดแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอที่จะเข้าถึงข้อมูลระดับ C-suite ได้ จึงควรใช้แพลตฟอร์ม B2B Marketing Automation ที่เชื่อถือได้สำหรับเป้าหมายนี้
3. การตลาดแบบ Omnichannel
ปัจจุบัน ลูกค้าสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาแบบชำระเงิน อีเมล โซเชียลมีเดีย การแจ้งเตือนแบบพุช และ SMS ความหลากหลายของช่องทางนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักการตลาดในการขยายฐานลูกค้า
ด้วยเหตุนี้ แพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับ B2B แบบ Omnichannel ที่รองรับทุกช่องทางจึงเกิดขึ้น เพื่อรวมแคมเปญและมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่ลูกค้า
4. การตลาดแบบเฉพาะบุคคล
Personalization เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญใน B2B Marketing Automation ปัจจุบันผู้คนไม่ชอบรับอีเมลการตลาดแบบทั่วไป เพราะมีหลายแบรนด์ที่ส่งข้อความลักษณะเดียวกันนี้ ดังนั้นซอฟต์แวร์ B2B Marketing Automation สมัยใหม่จึงให้คุณเลือกกลุ่มเป้าหมายและปรับแต่งแคมเปญได้อย่างแม่นยำในวงกว้าง
ความท้าทายหลักของ B2B Marketing Automation
มีความท้าทายหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการนำ B2B Marketing Automation ไปใช้ ความท้าทายเหล่านี้มีตั้งแต่การสนับสนุนด้าน IT ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงกระบวนการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
- ขาดการวางแผน: การนำ Marketing Automation มาใช้ใน B2B โดยไม่มีการวางแผนและเป้าหมายที่ชัดเจน อาจทำให้ธุรกิจสูญเสียโอกาสสำคัญได้ ควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและวิเคราะห์โครงสร้างการตลาดปัจจุบัน เพื่อเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม
- ขาดการสนับสนุนจาก IT: หลายองค์กรมักปล่อยให้ทีมการตลาดและฝ่ายขายดูแล Marketing Automation B2B เอง ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะการตั้งค่าระบบเหล่านี้ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิค ฝ่าย IT จึงควรมีส่วนร่วมด้วย
- ข้อมูลกระจายตัว: เครื่องมือ Marketing Automation ส่วนใหญ่สามารถแชร์ข้อมูลระหว่างช่องทางต่าง ๆ ได้ แต่ไม่ได้รวมข้อมูลไว้ในที่เดียวกัน ทีมการตลาดจึงควรใช้เครื่องมือจัดการหรือรวมข้อมูลร่วมกับ Marketing Automation เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้
- โมเดลการหาลูกค้าไม่เหมาะสม: การเลือกเครื่องมือ Marketing Automation ต้องขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ หากต้องการเจาะกลุ่มลูกค้ารายบุคคลควรเลือก B2C Marketing แต่หากเน้นผู้บริหารระดับสูงต้องใช้ B2B Marketing การเลือกซอฟต์แวร์ผิดประเภทจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ
- ข้อจำกัดด้านงบประมาณ: หลายองค์กรอาจลังเลที่จะใช้ Marketing Automation B2B เพราะคิดว่ามีค่าใช้จ่ายสูง แต่ปัจจุบันหลายแพลตฟอร์มมีโมเดลการคิดเงินตามการใช้งานจริง ช่วยให้คุณจ่ายเฉพาะฟีเจอร์ที่ใช้เท่านั้น

ที่มา: https://hingemarketing.com

ที่มา: https://searchengineland.com

ที่มา: https://firstpagesage.com
ส่วนที่ 3: การเลือกโซลูชัน B2B Marketing Automation ที่เหมาะสม
คุณสามารถเลือกเครื่องมือ B2B Marketing Automation ที่เหมาะสมได้โดยพิจารณาฟังก์ชันหลัก และเรียนรู้กระบวนการใช้งานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ B2B
ฟีเจอร์สำคัญของซอฟต์แวร์ B2B Marketing Automation
ฟีเจอร์สำคัญต่อไปนี้ควรพิจารณา เพื่อให้คุณทำ Marketing Automation B2B ได้อย่างมีประสิทธิภาพ:
1. เนื้อหาเฉพาะบุคคล & แคมเปญ Drip
เครื่องมือ B2B Marketing Automation โดยเฉพาะสำหรับอีเมล สามารถปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละราย แสดงให้เห็นว่าคุณใส่ใจความต้องการเฉพาะบุคคล นอกจากนี้ แคมเปญอีเมลแบบ Drip ยังช่วยให้กลุ่มเป้าหมายไม่ถูกถาโถมด้วยข้อความโฆษณาพร้อมกัน แต่จะได้รับข้อความที่เตรียมไว้ล่วงหน้าในเวลาที่เหมาะสม เพิ่มอัตราการเปิดและ Conversion
2. การเชื่อมต่อกับ CRM
แคมเปญการตลาดไม่ได้จบแค่การปิดการขาย คุณควรรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าด้วยเครื่องมือ CRM Automation เช่น Salesforce, HubSpot และ Microsoft Dynamics 365

ที่มา: https://images.squarespace-cdn.com
3. AI และ Predictive Analytics
ควรเลือกเครื่องมือที่มีฟีเจอร์ AI และความสามารถด้าน Predictive Analytics ที่แข็งแกร่ง เช่น Marketo AI ซึ่งเป็น Marketing Automation ที่ขับเคลื่อนด้วย AI มีฟีเจอร์เด่นอย่าง Lead Management, Consumer Engagement Marketing, Real-time Personalization, Budget Calendar และ Campaign Management

ที่มา: https://www.emailvendorselection.com
4. การมีส่วนร่วมแบบ Multi-Channel
คุณควรเลือกแพลตฟอร์ม B2B Marketing Automation ที่รองรับการทำการตลาดและสร้างโอกาสขายผ่านหลายช่องทาง เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล การแจ้งเตือนแบบพุช SMS WhatsApp และแชทบอท
การใช้ B2B Marketing Automation แบบครบวงจรจะช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ ขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขาย และสร้างกำไรได้มากขึ้น
หากคุณต้องการคำแนะนำในการเลือกแพลตฟอร์ม B2B Automation ที่เหมาะสม สามารถติดต่อเรา หรืออ่านคู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับ 7 แพลตฟอร์ม B2B Automation ที่ดีที่สุด
บทบาทของ EngageLab ในแคมเปญการตลาด B2B
EngageLab คือแพลตฟอร์ม B2B Marketing Automation ที่เราแนะนำเป็นอันดับหนึ่ง เพราะรองรับการสื่อสารกับลูกค้าผ่านหลายช่องทาง เช่น WhatsApp การแจ้งเตือนแบบพุช อีเมล และ SMS

นอกจากนี้ EngageLab ยังพัฒนาเป็น แพลตฟอร์ม Marketing Automation แบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จุดเด่นคือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ ให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าด้วยเส้นทางผู้ใช้แบบเฉพาะบุคคล พร้อมขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่รวดเร็วและแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพและกำไรสูงสุด
ตัวอย่างการใช้ EngageLab สำหรับแคมเปญการตลาด B2B ให้ประสบความสำเร็จ:
- Step1: เปิด EngageLab และเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณ จากนั้นคลิกปุ่ม เริ่มต้นใช้งาน ที่อยู่ข้าง Marketing Automation
- Step2: ในบริการ Marketing Automation ให้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อ ตั้งค่าแคมเปญ
- Step3: เริ่มต้นด้วยการกำหนดแหล่งข้อมูล (Data Sources) เพื่อให้แน่ใจว่าแคมเปญของคุณซิงค์กับข้อมูลล่าสุดจากมือถือ เว็บ API และบริการ third-party
- Step4: ขั้นตอนถัดไปคือเลือกช่องทาง (Channel) ที่คุณต้องการใช้ในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย
- Step5: เมื่อคุณตั้งค่าช่องทางและแหล่งข้อมูลเสร็จแล้ว สามารถออกแบบ User Journey ใหม่ หรือเลือกใช้เทมเพลต User Journey ที่มีให้เลือกมากมาย
- Step6: คุณสามารถพรีวิว User Journey ได้อย่างง่ายดายก่อนเลือกใช้งาน เช่น ตัวอย่าง Workflow ของ User Journey "re-engagement"
- Step7: เมื่อกำหนด Workflow และ Trigger ของ Journey เรียบร้อยแล้ว ให้คลิก เผยแพร่ จากนั้นเมื่อ Journey เริ่มทำงาน คุณสามารถติดตามรายได้และสถิติได้จากส่วนสถิติ







ส่วนที่ 4: กลยุทธ์ B2B Marketing Automation สำคัญ & กรณีศึกษาความสำเร็จ
มาดูตัวอย่างจริงของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการใช้กลยุทธ์ B2B Marketing Automation ใน 3 ด้านหลัก:
1. การหาลูกค้าใหม่ด้วยข้อมูล (Data-Driven Customer Acquisition)
การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven marketing) เป็นหัวใจสำคัญของ Marketing Automation Platform ในการสร้างแคมเปญที่แข็งแกร่ง และยังช่วยให้คุณจัดสรรงบประมาณได้เหมาะสมกับแต่ละกิจกรรมการตลาด
Pelco หนึ่งในบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านฮาร์ดแวร์ความปลอดภัยและโซลูชันกล้องวงจรปิด ได้เปลี่ยนมาใช้ Marketo เพื่อหาลีดจากทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 99% ภายใน 6 เดือน กลยุทธ์ที่ Pelco ใช้ ได้แก่ การแบ่งกลุ่มลูกค้าขั้นสูง (Advanced Customer Segmentation) การวิเคราะห์แบบรวมศูนย์ (Unified Analytics) และการปรับแคมเปญแบบเรียลไทม์ (Real-time Campaign Optimization) ซึ่งคุณสามารถใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ใน EngageLab ได้ในงบประมาณที่ประหยัดกว่า Marketo มาก
2. กระบวนการเลี้ยงดู (Nurturing) อัตโนมัติ
DocuSign เป็นอีกตัวอย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดยเพิ่มขนาดดีลเฉลี่ย 20% และลดระยะเวลาวงจรการขายลง 10% ด้วยการใช้ Highspot เพื่อสร้างศูนย์กลางเนื้อหาและการเทรนที่เป็นหนึ่งเดียว
คุณเองก็สามารถสร้างผลลัพธ์แบบเดียวกันได้ด้วย EngageLab โดยการทำ Personalized Marketing Content ในขนาดใหญ่ผ่านแดชบอร์ดเดียว และสร้าง Workflow ที่ขับเคลื่อนด้วย Trigger

ที่มา: https://www.highspot.com
3. ABM (Account-Based Marketing)
Snowflake บริษัทคลาวด์สตอเรจข้อมูล ได้ร่วมมือกับ เพิ่มอัตราการมีส่วนร่วม 300% ด้วยการนำกลยุทธ์ Account-Based Marketing (ABM) มาใช้ โดยร่วมมือกับ Terminus เป็นหลักเพื่อให้ได้ผลลัพธ์นี้

หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่คล้ายกัน สามารถนำกลยุทธ์ ABM มาใช้กับ EngageLab ได้เช่นกัน กลยุทธ์เหล่านี้รวมถึงการวางแผนแคมเปญการตลาดแบบหลายช่องทางเพื่อเข้าถึงผู้ใช้จากหลายแหล่ง นอกจากนี้ Analytics ใน EngageLab ยังช่วยให้ติดตามการมีส่วนร่วมของบัญชีได้ง่าย และมั่นใจได้ว่าคุณลงทุนกับช่องทางการตลาดที่เหมาะสม
สรุป & สิ่งที่ควรทำต่อไป?
ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงมือและสร้างกลยุทธ์ Automation ที่ประสบความสำเร็จ คือ "ตอนนี้"!
ด้วย EngageLab คุณสามารถออกแบบ ดำเนินการ และทำ Automation แคมเปญการตลาดข้ามหลายช่องทางได้อย่างง่ายดาย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเวลาที่เหมาะสมและเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าที่ภักดี
หากคุณต้องการเห็นรายได้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดด้วย Marketing Automation สมัครใช้งานวันนี้และสร้างแคมเปญการตลาดอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบ!