[อัปเดต 2025] 7 แพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับธุรกิจ B2B

ภูมิทัศน์การตลาด B2B กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีให้เลือกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจสามารถสร้างช่องทางดิจิทัลหลากหลายรูปแบบเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนความไว้วางใจและความภักดี ตรงนี้เองที่แพลตฟอร์ม B2B automation กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจ B2B marketing automation คืออะไร, เทรนด์ล่าสุด และวิธีเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับบริษัทของคุณ พร้อมทั้งเปรียบเทียบเครื่องมือ B2B marketing automation ชั้นนำ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเริ่มต้น

เทรนด์การตลาดในแพลตฟอร์ม B2B Marketing Automation

ก่อนจะลงลึกในรายละเอียด มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า B2B marketing automation คืออะไร คำนี้หมายถึงการใช้เครื่องมือเฉพาะทางเพื่อทำงานด้านการตลาดให้เป็นอัตโนมัติ เช่น การจัดการแคมเปญและการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ
แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ออกแบบมาสำหรับแคมเปญในบริบท B2B โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นธุรกิจหรือมืออาชีพ ไม่ใช่ผู้บริโภคทั่วไป

ดังนั้น แพลตฟอร์ม B2B marketing automation จึงตอบโจทย์การสื่อสารสำหรับวงจรการขายที่ยาวนานขึ้น และกลุ่มผู้ซื้อที่ซับซ้อนมากขึ้น ช่วยให้คุณพัฒนาและวัดผลแคมเปญแบบหลายช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ

ทำไมธุรกิจถึงต้องใช้ Marketing Automation สำหรับ B2B?

ในฐานะธุรกิจ B2B คุณอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้ automation ในกระบวนการ ทั้งที่สามารถทำเองได้ ความจริงคือ แม้คุณจะสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ใช้ automation ได้ แต่แพลตฟอร์ม B2B marketing automation ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจยุคใหม่ด้วยเหตุผลหลายข้อ

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Marketing Automation ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจ B2B ของคุณ มีดังนี้:

ข้อดีของแพลตฟอร์ม B2B Marketing Automation

เมื่อคุณทราบแล้วว่าทำไมต้องใช้ marketing automation สำหรับ B2B ต่อไปเราจะมาดูกันว่าแพลตฟอร์ม B2B automation มีข้อดีอะไรบ้าง เครื่องมือเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงธุรกิจและมืออาชีพอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมาย

ข้อดีหลักของการใช้แพลตฟอร์ม B2B marketing automation มีดังนี้:

• ขยายการใช้งานได้ตามธุรกิจ (Scalability):

  แพลตฟอร์ม B2B automation ส่วนใหญ่สามารถขยายการใช้งานได้ตามการเติบโตของธุรกิจ ช่วยให้คุณจัดการกับจำนวนลีดและแคมเปญที่เพิ่มขึ้นได้ง่ายขึ้น หากธุรกิจของคุณกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว คุณก็มั่นใจได้ว่าเครื่องมือที่เลือกจะรองรับทุกความต้องการได้อย่างไม่มีปัญหา

• ปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคลในวงกว้าง (Personalization at Scale):

  แพลตฟอร์มเหล่านี้มีเครื่องมือสำหรับปรับแต่งการสื่อสารกับลูกค้าให้เหมาะสม ช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น บางเครื่องมือ B2B marketing automation มีระบบแบ่งกลุ่มลูกค้าขั้นสูง ขณะที่บางแพลตฟอร์มใช้ AI และ machine learning เพื่อสร้างเนื้อหาที่ตรงใจสำหรับกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่

• จัดการลีดได้ดีขึ้น (Improved Lead Management):

  แพลตฟอร์ม B2B marketing automation มีฟีเจอร์ช่วยจัดการลีด เช่น การให้คะแนนลีดและการแบ่งกลุ่ม เพื่อให้คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์โดยรวมดีขึ้น
  

• ประหยัดเวลา (Time Savings):

  เมื่อคุณทำงานประจำ เช่น การส่งอีเมลหรือสื่อสารต่าง ๆ ให้เป็นอัตโนมัติ คุณจะมีเวลามากขึ้นไปโฟกัสกับงานที่มีคุณค่ามากกว่า แพลตฟอร์มจะส่งข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกในเวลาที่กำหนด ช่วยประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน

• ประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น (Enhanced Customer Experience):

  ข้อดีที่สำคัญที่สุดของแพลตฟอร์ม B2B marketing automation คือช่วยให้คุณสร้างประสบการณ์การสื่อสารที่ราบรื่นกับลูกค้า ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะเพิ่มความพึงพอใจและความภักดี และนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น

วิธีเลือกแพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับธุรกิจ B2B ที่เหมาะสม

ตอนนี้คุณทราบแล้วว่าการเลือกแพลตฟอร์ม Marketing Automation ที่เหมาะสมเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เมื่อค้นหาทางออนไลน์ คุณจะพบเครื่องมือ Marketing Automation สำหรับ B2B มากมาย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ?

เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้อย่างถูกต้อง เราได้คัดเลือกเกณฑ์สำคัญที่คุณควรพิจารณาไว้ดังนี้:

• กำหนดเป้าหมายของคุณ:

  คุณต้องการบรรลุอะไร? ต้องการเพิ่มการสร้างลีด, พัฒนาการมีส่วนร่วมของลูกค้า หรืออยากได้ข้อมูลวิเคราะห์ที่ดีขึ้นหรือไม่? เป้าหมายของคุณจะเป็นแนวทางหลักในการเลือกเครื่องมือที่มีฟีเจอร์เหมาะสมที่สุด

• ประเมินฟีเจอร์:

  พิจารณาฟีเจอร์ทั้งหมดที่แต่ละแพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับ B2B มีให้ ตรวจสอบว่าฟีเจอร์ไหนตรงกับเป้าหมายของคุณ เช่น บางเครื่องมือมีระบบอัตโนมัติสำหรับแคมเปญอีเมลพร้อมการปรับแต่งเฉพาะบุคคล, บางรายมีรายงานขั้นสูงและการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ หรือบางแพลตฟอร์มโดดเด่นด้านการเชื่อมต่อกับระบบอื่น

• ใช้งานง่าย:

  แพลตฟอร์มควรใช้งานง่ายและทีมของคุณสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว บางแพลตฟอร์มอาจซับซ้อนและต้องใช้เวลาฝึกอบรมมาก ซึ่งจะเสียเวลาและทรัพยากรของคุณ

• ขยายการใช้งานได้ (Scalability):

  ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ระบบ Marketing Automation ควรเติบโตไปพร้อมกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นควรเลือกแพลตฟอร์มที่สามารถขยายรองรับธุรกิจและตอบโจทย์การสื่อสารที่มากขึ้นได้

• บริการลูกค้าและการฝึกอบรม:

  อีกหนึ่งสิ่งที่ควรมองหา คือแพลตฟอร์มที่มีบริการลูกค้าที่เชื่อถือได้ รวมถึงมีคู่มือหรือการช่วยเหลือในการเริ่มต้นใช้งาน เพื่อให้ทีมของคุณมั่นใจในการใช้งานเครื่องมือ

• งบประมาณและ ROI:

  เกณฑ์ข้อนี้มีสองระดับ อันดับแรก คุณต้องตรวจสอบราคาของเครื่องมือและดูว่าเหมาะสมกับงบประมาณการตลาดของคุณหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แม้ราคาจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ควรพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่จะชดเชยราคาที่สูงกว่าได้ด้วย

  
• ความคิดเห็นจากลูกค้า:

  นอกจากการดูฟีเจอร์ที่ตรงกับ Marketing Automation สำหรับ B2B แล้ว ควรอ่านรีวิวและคำแนะนำจากผู้ใช้งานจริง เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มนั้น ๆ ในสถานการณ์จริง

7 แพลตฟอร์ม B2B Marketing Automation ที่ดีที่สุด

ตอนนี้คุณเข้าใจแล้วว่า B2B marketing automation คืออะไร และจะเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับธุรกิจของคุณได้อย่างไร ในส่วนนี้เราจะพาคุณไปดู 7 เครื่องมือ B2B marketing automation ที่ดีที่สุด ซึ่งมีฟีเจอร์ครบถ้วนสำหรับการเริ่มต้นใช้งาน

#1 EngageLab

🔔 EngageLab เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม B2B automation ที่ครบวงจรที่สุดในตอนนี้ ออกแบบมาสำหรับนักการตลาดยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความเรียบง่ายและประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจสร้าง จัดการ และปรับแต่งแคมเปญผ่านหลายช่องทางด้วยฟีเจอร์ขั้นสูง EngageLab โดดเด่นด้วยความสมดุลระหว่างความง่ายในการใช้งานกับฟังก์ชันที่ครบถ้วน เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด

ฟีเจอร์เด่น:

• เชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านหลายช่องทาง เช่น อีเมล, ส่ง SMS และการแจ้งเตือนแบบพุช เป็นต้น
• วิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ analytics ขั้นสูง
• เข้าถึงลูกค้าทั่วโลกด้วยอัตราการส่งถึงสูง
• เชื่อมต่อระบบได้อย่างรวดเร็วด้วย API ที่ใช้งานง่าย และมี SDK ให้เลือกหลายภาษา
• บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมผู้จัดการด้านเทคนิคคอยแก้ไขปัญหาทุกสถานการณ์

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ต้องการแพลตฟอร์มใช้งานง่ายแต่มีฟีเจอร์และระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ครบถ้วน

ราคา: มีแพ็กเกจราคาที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของธุรกิจ ทดลองใช้งานฟรีสำหรับผู้ใช้ใหม่ คุณสามารถดูประมาณการค่าใช้จ่ายของบริษัทได้โดยกรอกจำนวนบริการที่ต้องการบน หน้าราคาของ EngageLab

#2 HubSpot Marketing Hub

HubSpot ผู้นำด้าน Inbound Marketing ที่มีเครื่องมือหลากหลายสำหรับดึงดูด มีส่วนร่วม และสร้างความประทับใจให้ลูกค้า จึงไม่แปลกใจที่ HubSpot ก็เป็นแพลตฟอร์ม B2B marketing automation ที่เชื่อถือได้เช่นกัน

ฟีเจอร์เด่น:

• สร้างและปรับแต่งหน้า Landing Page ได้อย่างง่ายดาย
• เครื่องมือสร้างฟอร์มสำหรับเก็บลีดที่มีประสิทธิภาพ
• ระบบอัตโนมัติสำหรับอีเมล พร้อมเครื่องมือ drag-and-drop
• จัดการโซเชียลมีเดียได้จากแพลตฟอร์มเดียว
• เชื่อมต่อกับระบบ CRM ของ HubSpot

เหมาะสำหรับ: บริษัทที่เน้นกลยุทธ์ Inbound Marketing เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่

ราคา: มีแผนใช้ฟรีพร้อมฟีเจอร์จำกัด และแผนเสียเงินตั้งแต่ $15/ที่นั่ง/เดือน ถึง $3,200/ที่นั่ง/เดือน ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่เลือก

#3 Marketo Engage (โดย Adobe)

Marketo Engage ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถด้านการตลาดระดับองค์กร โดยเฉพาะ Account-Based Marketing (ABM) แพลตฟอร์มนี้ขับเคลื่อนด้วย AI เหมาะสำหรับสร้างแคมเปญแบบเฉพาะบุคคลให้กลุ่มเป้าหมาย จึงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม B2B automation ชั้นนำที่คุณไม่ควรพลาด

ฟีเจอร์เด่น:

• ปรับแต่งเนื้อหาด้วย AI และแนะนำคอนเทนต์แบบอัตโนมัติ
• เชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ Adobe ได้อย่างไร้รอยต่อ
• สร้างการมีส่วนร่วมแบบหลายช่องทาง เช่น อีเมล, เว็บไซต์, มือถือ, แชท, อีเวนต์ และสัมมนาออนไลน์
• วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและรายงานที่ปรับแต่งได้

เหมาะสำหรับ: องค์กรขนาดใหญ่ที่มีความต้องการด้านการตลาดที่ซับซ้อน

ราคา: กำหนดราคาตามความต้องการของแต่ละองค์กร

#4 Salesforce Pardot

Pardot คือแพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับ B2B ของ Salesforce ที่เน้นการทำ Marketing Automation เป็นหลัก ช่วยเชื่อมต่อทีมการตลาดและทีมขายในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างโอกาสทางธุรกิจ

คุณสมบัติเด่น:

• วิเคราะห์ข้อมูล B2B และรายงานผล ROI
• สร้างคอนเทนต์แบบไดนามิกและระบบ Lead Scoring
• เชื่อมต่อกับ CRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้ Salesforce ที่ต้องการประสบการณ์ด้านการตลาดและการขายแบบครบวงจร

ราคา: เริ่มต้นที่ $1,250/บริษัท/เดือน

#5 ActiveCampaign

ActiveCampaign คือแพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับ B2B ที่มีความยืดหยุ่น เน้นการทำอีเมลและ CRM Automation โดยใช้ AI และ Machine Learning เพื่อช่วยสร้างแคมเปญแบบเฉพาะบุคคลและตรงกลุ่มเป้าหมาย

คุณสมบัติเด่น:

• ระบบอีเมลอัตโนมัติพร้อมการแบ่งกลุ่มขั้นสูง
• คาดการณ์การกระทำตามพฤติกรรมผู้ใช้
• เชื่อมต่อหลายช่องทาง ทั้งอีเมล SMS และโฆษณา
• เครื่องมือ Automation ด้านการขายและ CRM

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องการระบบ Automation ที่ทรงพลังแต่คุ้มค่า

ราคา: แพ็กเกจเริ่มต้น $15/เดือน สูงสุด $145/เดือน ทดลองใช้ฟรี 14 วัน

#6 Mailchimp

Mailchimp คือหนึ่งในแพลตฟอร์ม Email Marketing และ Marketing Automation สำหรับ B2B ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ปัจจุบันสามารถใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อทำ Automation ครอบคลุมทุกขั้นตอนของ Customer Journey

คุณสมบัติเด่น:

• เทมเพลตสำเร็จรูปและตั้งเวลาส่งอีเมล
• วิเคราะห์และรายงานผลแคมเปญ
• รองรับแคมเปญหลายช่องทาง รวมถึงโฆษณา

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่เริ่มต้นใช้งาน Marketing Automation

ราคา: ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน แพ็กเกจเริ่มต้น $13/เดือน สำหรับไม่เกิน 500 รายชื่อ

#7 Drip

Drip เป็นเครื่องมือที่เน้นกลุ่มธุรกิจ eCommerce โดยเฉพาะ มีฟีเจอร์ช่วยสร้าง Customer Journey แบบเฉพาะบุคคล เหมาะสำหรับธุรกิจ B2B ที่ต้องการยกระดับ Email Marketing ด้วย Automation ขั้นสูง

คุณสมบัติเด่น:

• เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติสำหรับ Email Marketing
• แบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรม
• วิเคราะห์ผลแบบเรียลไทม์

เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ eCommerce ที่ต้องการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

ราคา: เริ่มต้น $39/เดือน สำหรับ 2,500 รายชื่อ ทดลองใช้งานฟรี

ตารางเปรียบเทียบแพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับธุรกิจ B2B

เริ่มต้นใช้งาน EngageLab

แพลตฟอร์ม Marketing Automation สำหรับ B2B เหล่านี้เป็นโซลูชันที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจของคุณ แต่ต้องยอมรับว่าฟีเจอร์ล้ำสมัยและความยืดหยุ่นของ EngageLab ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับทุกธุรกิจ หากคุณพร้อมยกระดับกลยุทธ์การตลาดของคุณ นี่คือเครื่องมือที่ควรลอง สำรวจฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น ไลบรารีเทมเพลตหลากหลาย องค์ประกอบปรับแต่งเฉพาะบุคคล การแบ่งกลุ่มขั้นสูง และการมีส่วนร่วมแบบ Omnichannel

ค้นพบว่าการทำ Marketing Automation สามารถเปลี่ยนกลยุทธ์ B2B ของคุณได้อย่างไร ด้วยการทดลองใช้ฟรีจาก EngageLab