avatar

มินตรา

อัปเดต: 2025-08-13

1642 การดู, 5 min การอ่าน

Deep linking กำลังกลายเป็นหัวข้อยอดนิยมในโลกดิจิทัล และไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ธุรกิจที่ใช้ deep link พบว่ามีการมีส่วนร่วมและการรักษาลูกค้าที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีกลยุทธ์ omnichannel ที่แข็งแกร่งซึ่งขับเคลื่อนด้วย deep linking มักจะรักษาลูกค้าไว้ได้ประมาณ 89% เทียบกับเพียง 33% สำหรับบริษัทที่มีกลยุทธ์อ่อนแอกว่า Deep linking ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยการพาผู้ใช้ไปยังคอนเทนต์เฉพาะโดยตรง ประหยัดเวลาค้นหาในแอปหรือเว็บไซต์ การนำทางที่ลื่นไหลแบบนี้คือสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังในปัจจุบัน

แล้ว deep linking คืออะไร และจะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร? ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่า deep linking คืออะไร ข้อดีของมัน และวิธีที่คุณสามารถใช้ deep linking เพื่อขยายธุรกิจของคุณ

deep-linking-cover

ส่วนที่ 1. Deep Linking คืออะไร?

Deep linking คือการใช้ไฮเปอร์ลิงก์เพื่อพาผู้ใช้ไปยังหน้าเพจหรือคอนเทนต์เฉพาะภายในแอป แตกต่างจากลิงก์ทั่วไปที่มักจะนำไปสู่หน้าโฮมหรือหน้าหลักของเว็บไซต์ deep link จะนำผู้ใช้ไปยังหน้าที่ต้องการโดยตรง Deep link ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยการเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

deep linking คืออะไร

Deep link มีความสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ด้วยการใช้ลิงก์เหล่านี้ ธุรกิจสามารถใช้ทรัพยากรน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน ในขณะเดียวกันผู้ใช้ก็ประหยัดเวลาและเจอสิ่งที่ต้องการได้ทันที

นี่คือข้อดีของการใช้ deep link:

  • ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้: Deep link ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการในแอปมือถือได้ง่ายขึ้น ลิงก์เหล่านี้จะพาผู้ใช้ไปยังหน้าที่ต้องการโดยตรง ประหยัดเวลา ไม่ต้องคลิกหลายขั้นเพื่อไปถึงจุดหมาย Deep link จึงช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้อย่างมาก
  • การมีส่วนร่วมของผู้ใช้: ผู้ใช้ชอบแอปที่ใช้งานง่าย การเข้าถึงคอนเทนต์และค้นหาสินค้าได้สะดวกช่วยธุรกิจได้มาก เมื่อมีผู้ใช้เข้ามาในแอปมากขึ้น ธุรกิจก็เติบโต ผู้ใช้ชอบบริการที่ค้นหาหน้าเป้าหมายได้ง่ายโดยไม่ต้องเลื่อนผ่านหลายหน้า
  • การตลาดแบบเฉพาะบุคคล: Deep link ยังช่วยให้ธุรกิจส่งข้อความเฉพาะบุคคลให้ลูกค้าตามความสนใจและพฤติกรรม โดยใช้ deep link ในการตลาด ธุรกิจสามารถพาผู้ใช้ไปยังดีลพิเศษหรือสินค้าเฉพาะ ข้อเสนอเหล่านี้อ้างอิงจากพฤติกรรมผู้ใช้ในอดีต เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจจะสร้างชุดข้อมูลเฉพาะบุคคลได้ กลยุทธ์การตลาดจะยืดหยุ่นและพัฒนาไปพร้อมกับความสนใจของผู้ใช้
  • อัตราการแปลงที่สูงขึ้น: การใช้งานแอปมือถือสะดวกขึ้นมากด้วย deep link ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน แทนที่จะต้องผ่านหลายขั้นตอน เช่น การซื้อหรือสมัครสมาชิก deep link จะพาผู้ใช้ไปยังจุดหมายโดยตรง

URL ปกติจะพาผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บแบบคงที่ ในขณะที่ deep link จะพาผู้ใช้ไปยังหน้าภายในแอปหรือเว็บไซต์ตามความสนใจและพฤติกรรม ดังนั้น deep link จึงมีความแม่นยำและตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า URL ทั่วไป Deep linking มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการผู้ใช้แอปมือถือ

Deep Linking ทำงานอย่างไร

ที่มา: Curity

💡Standard Deep Links

Standard deep link จะถูกสร้างขึ้นตามความสนใจของผู้ใช้ในขณะนั้น และจะพาผู้ใช้ไปยังคอนเทนต์ที่ต้องการ แอปจะต้องติดตั้งไว้ในเครื่องของผู้ใช้ก่อน หากยังไม่ได้ติดตั้ง standard deep link จะพาไปที่ App Store ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม คุณสามารถสร้าง deep link และส่งการแจ้งเตือนแบบพุชให้ผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้คลิกจะไปยังบทความโดยตรง

💡Deferred Deep Links

Deferred deep link เหมาะสำหรับกรณีที่แอปยังไม่ได้ติดตั้ง ลิงก์นี้จะพาผู้ใช้ไปดาวน์โหลดแอปก่อน หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ระบบจะพาไปยังคอนเทนต์ที่ต้องการทันที เหมาะสำหรับการต้อนรับผู้ใช้ใหม่ เช่น ลูกค้าเห็นโฆษณาเสื้อผ้าแบรนด์ดังลดราคา 50% ต้องการรับสิทธิ์จึงคลิกลิงก์แต่ยังไม่มีแอป Deferred deep link จะพาไปที่ App Store เพื่อดาวน์โหลดแอปแล้วจึงเริ่มช้อปปิ้ง

💡Contextual Deep Links

Contextual deep link จะเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะสม ข้อมูลเหล่านี้รวมถึงความชอบของผู้ใช้และแหล่งที่มาของลิงก์ รายละเอียดเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ เช่น หากมีคนที่สนใจโยคะมากและมีแอปของบริษัทอยู่แล้ว เมื่อเพื่อนส่งวิดีโอโยคะมาให้ ลิงก์จะเปิดวิดีโอนั้นในแอปโดยตรงและบันทึกข้อมูลไว้ จากนั้นแอปจะวิเคราะห์ว่าผู้ใช้ชอบดูคอนเทนต์แบบไหน และแนะนำคอนเทนต์ที่คล้ายกันให้ต่อไป

✓ ดึงดูดผู้ใช้ใหม่: ใช้ deferred deep link เพื่อนำผู้ใช้ใหม่จากโฆษณาหรืออีเมลไปยังคอนเทนต์ที่ต้องการหลังติดตั้งแอป ลิงก์เหล่านี้จะขอให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปก่อน แล้วเปิดหน้าที่ต้องการในแอปโดยอัตโนมัติ

✓ รักษาผู้ใช้เดิม: ใช้ contextual deep link ในการแจ้งเตือนแบบพุช เพื่อพาผู้ใช้เดิมกลับไปยังคอนเทนต์ที่ปรับแต่งตามความชอบและพฤติกรรมเดิม มีโอกาสสูงที่ผู้ใช้ที่ไม่เคลื่อนไหวจะกลับมาใช้งานอีกครั้งเมื่อได้รับคอนเทนต์ที่ตรงใจ

✓ การตลาด: ใช้ deep link ปกติในโพสต์โซเชียลมีเดียและอีเมลเพื่อพาผู้ใช้แอปปัจจุบันไปยังดีลพิเศษหรือสิ่งใหม่ ๆ ในแอป ช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์

ส่วนที่ 2. Deep Linking กับ EngageLab

EngageLab เป็นผู้นำในตลาดบริการเทคโนโลยีการตลาด ให้บริการดูแลลูกค้าแบบครบวงจร ทั้ง AppPush, WebPush และการตลาดผ่าน SMS/อีเมล เมื่อเลือกใช้ EngageLab คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทุกความต้องการด้านการตลาดของคุณจะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน

นี่คือคู่มือทีละขั้นตอนสำหรับการสร้างแคมเปญการตลาดด้วยแพลตฟอร์ม EngageLab:

วิธีสร้างบัญชี Engagelab

ไปที่บัญชี EngageLab ของคุณ หลังจากเข้าสู่ระบบ ให้ค้นหาหมวด "AppPush"

engagelab สร้างโปรเจกต์ app push

คลิก "เข้าสู่" ใต้แท็บ Operation เพื่อเริ่มสร้างแคมเปญของคุณ

engagelab เข้าสู่ระบบโปรเจกต์ app push

ระหว่างที่คุณสร้างแคมเปญใหม่ จะมีหน้าตั้งค่าเกี่ยวกับ deep link ซึ่งควรมีลักษณะดังนี้

engagelab การตั้งค่าโปรเจกต์ app push

เลือก deeplink ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้อความส่วนตัวหรือการแจ้งเตือนแบบพุชเฉพาะบุคคล

engagelab สร้าง push notification ด้วย deep linking

หลังจากคลิกที่หนึ่งในตัวเลือกเหล่านี้ หน้านี้จะเปิดขึ้น

กรอกชื่อเรื่องและเนื้อหาของ deeplink URL ให้ถูกต้อง เพื่อให้ลิงก์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการในแอปของคุณ

เลือกกลุ่มเป้าหมาย กำหนดเวลา และความเร็วในการส่ง

ก่อนจบแคมเปญของคุณ กรุณาทดสอบ deep link ของคุณอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ถูกต้อง

ทดสอบ deep link ของคุณบนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Android และ iOS เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้กับทุกระบบ

หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม กรุณาอ่านคู่มือผู้ใช้หรือสอบถามฝ่ายบริการลูกค้า

ฟีเจอร์ EngageLab สำหรับแคมเปญการตลาด

EngageLab เป็นแพลตฟอร์มการตลาดเฉพาะทางที่ให้บริการครบวงจรแก่ธุรกิจ ตัวอย่างบริการที่ใช้ deep linking มีดังนี้:

  • การแบ่งกลุ่มเป้าหมาย: EngageLab ช่วยให้คุณแบ่งกลุ่มเป้าหมายตามอายุ พฤติกรรม หรือระดับการใช้งานแอป โดยการสร้างแคมเปญ deeplink เฉพาะกลุ่ม คุณสามารถส่งข้อความที่ตรงใจและมีความหมายต่อผู้ใช้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณได้
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: EngageLab มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยประเมินผลแคมเปญ deeplink ของคุณ คุณจะทราบข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนผู้คลิก จำนวนผู้ทำตามเป้าหมาย และอัตราการใช้งานแอป นำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงแคมเปญให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เห็นจุดแข็งและปรับเปลี่ยนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ระบบอัตโนมัติ: ใช้ EngageLab เพื่อส่ง push notification พร้อม deep link แบบอัตโนมัติ คุณสามารถตั้งเวลาส่งข้อความตามกิจกรรมของผู้ใช้ เหตุการณ์พิเศษ หรือโปรโมชันต่าง ๆ การทำแคมเปญแบบอัตโนมัติช่วยให้คุณสื่อสารกับผู้ใช้ได้ตรงเวลา รักษาความสนใจ และกระตุ้นให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานแอปต่อเนื่อง

สรุป

หวังว่าคุณจะได้คำตอบเกี่ยวกับ deep linking ที่ต้องการจากบทความนี้ การใช้ deep link จะช่วยให้แอปของคุณใช้งานง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ และช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้อย่างมาก เมื่อเข้าใจประเภทของ deep link และวิธีใช้งานร่วมกับ EngageLab คุณจะสามารถทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เริ่มต้นใช้ deep link วันนี้ เพื่อยกระดับแอปของคุณให้เหนือกว่าเดิม

อยากยกระดับการตลาดของคุณด้วย deep linking อยู่หรือเปล่า? ทดลองใช้ EngageLab ฟรีตอนนี้ แล้วสัมผัสความแตกต่างได้เลย!