Deep linking กำลังกลายเป็นหัวข้อยอดนิยมในโลกดิจิทัล และไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ธุรกิจที่ใช้ deep link พบว่ามีการมีส่วนร่วมและการรักษาลูกค้าที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีกลยุทธ์ omnichannel ที่แข็งแกร่งซึ่งขับเคลื่อนด้วย deep linking มักจะรักษาลูกค้าไว้ได้ประมาณ 89% เทียบกับเพียง 33% สำหรับบริษัทที่มีกลยุทธ์อ่อนแอกว่า Deep linking ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยการพาผู้ใช้ไปยังคอนเทนต์เฉพาะโดยตรง ประหยัดเวลาค้นหาในแอปหรือเว็บไซต์ การนำทางที่ลื่นไหลแบบนี้คือสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังในปัจจุบัน
แล้ว deep linking คืออะไร และจะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร? ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่า deep linking คืออะไร ข้อดีของมัน และวิธีที่คุณสามารถใช้ deep linking เพื่อขยายธุรกิจของคุณ

ส่วนที่ 1. Deep Linking คืออะไร?
Deep linking คือการใช้ไฮเปอร์ลิงก์เพื่อพาผู้ใช้ไปยังหน้าเพจหรือคอนเทนต์เฉพาะภายในแอป แตกต่างจากลิงก์ทั่วไปที่มักจะนำไปสู่หน้าโฮมหรือหน้าหลักของเว็บไซต์ deep link จะนำผู้ใช้ไปยังหน้าที่ต้องการโดยตรง Deep link ช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยการเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

ความสำคัญของ Deep Link
Deep link มีความสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ด้วยการใช้ลิงก์เหล่านี้ ธุรกิจสามารถใช้ทรัพยากรน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน ในขณะเดียวกันผู้ใช้ก็ประหยัดเวลาและเจอสิ่งที่ต้องการได้ทันที
นี่คือข้อดีของการใช้ deep link:
- ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้: Deep link ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการในแอปมือถือได้ง่ายขึ้น ลิงก์เหล่านี้จะพาผู้ใช้ไปยังหน้าที่ต้องการโดยตรง ประหยัดเวลา ไม่ต้องคลิกหลายขั้นเพื่อไปถึงจุดหมาย Deep link จึงช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้อย่างมาก
- การมีส่วนร่วมของผู้ใช้: ผู้ใช้ชอบแอปที่ใช้งานง่าย การเข้าถึงคอนเทนต์และค้นหาสินค้าได้สะดวกช่วยธุรกิจได้มาก เมื่อมีผู้ใช้เข้ามาในแอปมากขึ้น ธุรกิจก็เติบโต ผู้ใช้ชอบบริการที่ค้นหาหน้าเป้าหมายได้ง่ายโดยไม่ต้องเลื่อนผ่านหลายหน้า
- การตลาดแบบเฉพาะบุคคล: Deep link ยังช่วยให้ธุรกิจส่งข้อความเฉพาะบุคคลให้ลูกค้าตามความสนใจและพฤติกรรม โดยใช้ deep link ในการตลาด ธุรกิจสามารถพาผู้ใช้ไปยังดีลพิเศษหรือสินค้าเฉพาะ ข้อเสนอเหล่านี้อ้างอิงจากพฤติกรรมผู้ใช้ในอดีต เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจจะสร้างชุดข้อมูลเฉพาะบุคคลได้ กลยุทธ์การตลาดจะยืดหยุ่นและพัฒนาไปพร้อมกับความสนใจของผู้ใช้
- อัตราการแปลงที่สูงขึ้น: การใช้งานแอปมือถือสะดวกขึ้นมากด้วย deep link ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน แทนที่จะต้องผ่านหลายขั้นตอน เช่น การซื้อหรือสมัครสมาชิก deep link จะพาผู้ใช้ไปยังจุดหมายโดยตรง
ประเภทของ Deep Link
URL ปกติจะพาผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บแบบคงที่ ในขณะที่ deep link จะพาผู้ใช้ไปยังหน้าภายในแอปหรือเว็บไซต์ตามความสนใจและพฤติกรรม ดังนั้น deep link จึงมีความแม่นยำและตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า URL ทั่วไป Deep linking มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการผู้ใช้แอปมือถือ

ที่มา: Curity
💡Standard Deep Links
Standard deep link จะถูกสร้างขึ้นตามความสนใจของผู้ใช้ในขณะนั้น และจะพาผู้ใช้ไปยังคอนเทนต์ที่ต้องการ แอปจะต้องติดตั้งไว้ในเครื่องของผู้ใช้ก่อน หากยังไม่ได้ติดตั้ง standard deep link จะพาไปที่ App Store ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม คุณสามารถสร้าง deep link และส่งการแจ้งเตือนแบบพุชให้ผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้คลิกจะไปยังบทความโดยตรง
💡Deferred Deep Links
Deferred deep link เหมาะสำหรับกรณีที่แอปยังไม่ได้ติดตั้ง ลิงก์นี้จะพาผู้ใช้ไปดาวน์โหลดแอปก่อน หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ระบบจะพาไปยังคอนเทนต์ที่ต้องการทันที เหมาะสำหรับการต้อนรับผู้ใช้ใหม่ เช่น ลูกค้าเห็นโฆษณาเสื้อผ้าแบรนด์ดังลดราคา 50% ต้องการรับสิทธิ์จึงคลิกลิงก์แต่ยังไม่มีแอป Deferred deep link จะพาไปที่ App Store เพื่อดาวน์โหลดแอปแล้วจึงเริ่มช้อปปิ้ง
💡Contextual Deep Links
Contextual deep link จะเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ใช้เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะสม ข้อมูลเหล่านี้รวมถึงความชอบของผู้ใช้และแหล่งที่มาของลิงก์ รายละเอียดเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ เช่น หากมีคนที่สนใจโยคะมากและมีแอปของบริษัทอยู่แล้ว เมื่อเพื่อนส่งวิดีโอโยคะมาให้ ลิงก์จะเปิดวิดีโอนั้นในแอปโดยตรงและบันทึกข้อมูลไว้ จากนั้นแอปจะวิเคราะห์ว่าผู้ใช้ชอบดูคอนเทนต์แบบไหน และแนะนำคอนเทนต์ที่คล้ายกันให้ต่อไป
Deep Link ใช้ที่ไหนได้บ้าง
✓ ดึงดูดผู้ใช้ใหม่: ใช้ deferred deep link เพื่อนำผู้ใช้ใหม่จากโฆษณาหรืออีเมลไปยังคอนเทนต์ที่ต้องการหลังติดตั้งแอป ลิงก์เหล่านี้จะขอให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปก่อน แล้วเปิดหน้าที่ต้องการในแอปโดยอัตโนมัติ
✓ รักษาผู้ใช้เดิม: ใช้ contextual deep link ในการแจ้งเตือนแบบพุช เพื่อพาผู้ใช้เดิมกลับไปยังคอนเทนต์ที่ปรับแต่งตามความชอบและพฤติกรรมเดิม มีโอกาสสูงที่ผู้ใช้ที่ไม่เคลื่อนไหวจะกลับมาใช้งานอีกครั้งเมื่อได้รับคอนเทนต์ที่ตรงใจ
✓ การตลาด: ใช้ deep link ปกติในโพสต์โซเชียลมีเดียและอีเมลเพื่อพาผู้ใช้แอปปัจจุบันไปยังดีลพิเศษหรือสิ่งใหม่ ๆ ในแอป ช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์
ส่วนที่ 2. Deep Linking กับ EngageLab
EngageLab เป็นผู้นำในตลาดบริการเทคโนโลยีการตลาด ให้บริการดูแลลูกค้าแบบครบวงจร ทั้ง AppPush, WebPush และการตลาดผ่าน SMS/อีเมล เมื่อเลือกใช้ EngageLab คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทุกความต้องการด้านการตลาดของคุณจะได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน
นี่คือคู่มือทีละขั้นตอนสำหรับการสร้างแคมเปญการตลาดด้วยแพลตฟอร์ม EngageLab:

ไปที่บัญชี EngageLab ของคุณ หลังจากเข้าสู่ระบบ ให้ค้นหาหมวด "AppPush"

คลิก "เข้าสู่" ใต้แท็บ Operation เพื่อเริ่มสร้างแคมเปญของคุณ

ระหว่างที่คุณสร้างแคมเปญใหม่ จะมีหน้าตั้งค่าเกี่ยวกับ deep link ซึ่งควรมีลักษณะดังนี้

เลือก deeplink ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้อความส่วนตัวหรือการแจ้งเตือนแบบพุชเฉพาะบุคคล

หลังจากคลิกที่หนึ่งในตัวเลือกเหล่านี้ หน้านี้จะเปิดขึ้น
กรอกชื่อเรื่องและเนื้อหาของ deeplink URL ให้ถูกต้อง เพื่อให้ลิงก์ไปยังตำแหน่งที่ต้องการในแอปของคุณ
เลือกกลุ่มเป้าหมาย กำหนดเวลา และความเร็วในการส่ง
ก่อนจบแคมเปญของคุณ กรุณาทดสอบ deep link ของคุณอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ถูกต้อง
ทดสอบ deep link ของคุณบนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Android และ iOS เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้กับทุกระบบ
หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม กรุณาอ่านคู่มือผู้ใช้หรือสอบถามฝ่ายบริการลูกค้า
ฟีเจอร์ EngageLab สำหรับแคมเปญการตลาด
EngageLab เป็นแพลตฟอร์มการตลาดเฉพาะทางที่ให้บริการครบวงจรแก่ธุรกิจ ตัวอย่างบริการที่ใช้ deep linking มีดังนี้:
- การแบ่งกลุ่มเป้าหมาย: EngageLab ช่วยให้คุณแบ่งกลุ่มเป้าหมายตามอายุ พฤติกรรม หรือระดับการใช้งานแอป โดยการสร้างแคมเปญ deeplink เฉพาะกลุ่ม คุณสามารถส่งข้อความที่ตรงใจและมีความหมายต่อผู้ใช้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณได้
- การวิเคราะห์ข้อมูล: EngageLab มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยประเมินผลแคมเปญ deeplink ของคุณ คุณจะทราบข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวนผู้คลิก จำนวนผู้ทำตามเป้าหมาย และอัตราการใช้งานแอป นำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงแคมเปญให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เห็นจุดแข็งและปรับเปลี่ยนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ระบบอัตโนมัติ: ใช้ EngageLab เพื่อส่ง push notification พร้อม deep link แบบอัตโนมัติ คุณสามารถตั้งเวลาส่งข้อความตามกิจกรรมของผู้ใช้ เหตุการณ์พิเศษ หรือโปรโมชันต่าง ๆ การทำแคมเปญแบบอัตโนมัติช่วยให้คุณสื่อสารกับผู้ใช้ได้ตรงเวลา รักษาความสนใจ และกระตุ้นให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานแอปต่อเนื่อง
สรุป
หวังว่าคุณจะได้คำตอบเกี่ยวกับ deep linking ที่ต้องการจากบทความนี้ การใช้ deep link จะช่วยให้แอปของคุณใช้งานง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ และช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้อย่างมาก เมื่อเข้าใจประเภทของ deep link และวิธีใช้งานร่วมกับ EngageLab คุณจะสามารถทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น เริ่มต้นใช้ deep link วันนี้ เพื่อยกระดับแอปของคุณให้เหนือกว่าเดิม
อยากยกระดับการตลาดของคุณด้วย deep linking อยู่หรือเปล่า? ทดลองใช้ EngageLab ฟรีตอนนี้ แล้วสัมผัสความแตกต่างได้เลย!