avatar

มินตรา

อัปเดต: 2025-12-23

5217 ดู, 5 min อ่าน

เรากำลังอยู่ในยุค “เดี๋ยวนี้” ที่ทุกคนต้องการทุกอย่างรวดเร็วทันใจ โดยเฉพาะลูกค้าที่คาดหวังการตอบกลับทันทีและการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

แล้วธุรกิจจะปรับตัวอย่างไรให้ทันยุคนี้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่ตรงใจยิ่งขึ้น? คำตอบคือ WhatsApp Business API ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 3 พันล้านคน WhatsApp Business API กลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับธุรกิจในการสื่อสารและดูแลกลุ่มเป้าหมาย WhatsApp API สามารถส่งข้อความ ให้บริการซัพพอร์ตแบบเรียลไทม์ และช่วยให้คุณเปิดตัวแคมเปญการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาดูกันว่า WhatsApp Business API คืออะไร มีฟีเจอร์เด่น ข้อดี และ วิธีเลือกแพลตฟอร์ม API ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ ต้องดูอะไรบ้าง


WhatsApp Business API: คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อการสื่อสารธุรกิจ

WhatsApp Business API คืออะไร?

WhatsApp Business API คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แตกต่างจาก WhatsApp Business ทั่วไป โซลูชันนี้ออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการผสานการส่งข้อความ WhatsApp เข้ากับงานบริการลูกค้า ฝ่ายขาย หรือการตลาด

อธิบายให้เข้าใจง่าย สมมติว่าคุณเป็นเจ้าขององค์กรขนาดใหญ่ที่มีทีมงานคอยดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง คุณจะจัดการตารางงานและมั่นใจได้อย่างไรว่าทีมของคุณจะดูแลลูกค้าแบบเรียลไทม์?

ผู้ประกอบการที่ธุรกิจกำลังเติบโตจำเป็นต้องรองรับลูกค้าจำนวนมากในแต่ละวัน WhatsApp API สามารถส่งข้อความถึงลูกค้าทุกคนผ่านหมายเลขเดียว และให้เจ้าหน้าที่เห็นบทสนทนาได้ทั้งหมด WhatsApp API ยังมีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น การส่งข้อความธุรกรรม ข้อความอัตโนมัติ ตอบกลับอัตโนมัติ Chatbot แชทสด สื่อสารแบบเฉพาะบุคคล และอีกมากมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณทำงานได้ดีขึ้น

ฟีเจอร์และฟังก์ชันเด่นของ WhatsApp Business API

WhatsApp Business API มีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้ธุรกิจมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่คือฟีเจอร์และฟังก์ชันสำคัญที่ควรรู้:

1. เทมเพลตข้อความ (Messaging Templates)

WhatsApp Business API มีเทมเพลตข้อความที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้าให้เลือกใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า เทมเพลตเหล่านี้มีข้อมูลหลากหลาย เช่น การอัปเดตบัญชี การแจ้งชำระเงิน ข้อมูลตั๋ว หรือการแก้ไขปัญหา เทมเพลตที่ผ่านการอนุมัติช่วยประหยัดเวลาและมั่นใจว่าข้อความของคุณจะไม่ละเมิดนโยบายของ WhatsApp

2. การส่งข้อความอัตโนมัติ (Automated Messaging)

คุณสามารถใช้ฟีเจอร์อัตโนมัติของ WhatsApp Business API เพื่อส่งข้อความต้อนรับ ยืนยันคำสั่งซื้อ หรือแจ้งเตือนนัดหมาย ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

3. การตลาดแบบอินเทอร์แอคทีฟ (Interactive Marketing)

WhatsApp Business API มี อัตราการเปิดอ่านสูงถึง 99% หมายความว่าแทบทุกข้อความถูกอ่าน คุณสามารถส่งข้อความถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากพร้อมกัน และยังเพิ่มสื่อมัลติมีเดีย เช่น รูปภาพ เสียง วิดีโอ หรือ GIF เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

4. การล็อกอินหลายบัญชี (Multiple Logins)

อย่างน้อย 39% ของลูกค้า เลือกใช้ WhatsApp เป็นช่องทางบริการลูกค้าที่ชื่นชอบ WhatsApp API รองรับการล็อกอินหลายบัญชี หมายความว่าเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าไม่ต้องแย่งกันใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวอีกต่อไป ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลลูกค้าและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

5. WhatsApp Chatbots

คุณสามารถใช้ WhatsApp API เพื่อส่งข้อความ ตอบคำถามลูกค้า แชร์เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง และกระตุ้นยอดขาย การใช้ WhatsApp Chatbot สามารถเพิ่มโอกาสสร้างลูกค้าใหม่ได้ถึง 5 เท่า เพราะ Chatbot เหล่านี้ให้บริการได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง และตอบสนองแบบเฉพาะบุคคล

WhatsApp, WhatsApp Business และ WhatsApp Business API ต่างกันอย่างไร?

ตอนนี้คุณอาจสงสัยว่า WhatsApp API แตกต่างจาก WhatsApp ทั่วไปและ WhatsApp Business อย่างไร เราจะมาเปรียบเทียบแต่ละแบบเพื่อให้เห็นฟีเจอร์ ความเหมือน และความแตกต่างอย่างละเอียด

1. WhatsApp ทั่วไป (Regular WhatsApp)

WhatsApp เวอร์ชันมาตรฐานเป็นแอปส่งข้อความสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ใช้เชื่อมต่อกับคนอื่นทั่วโลก ผู้ใช้สามารถสมัคร WhatsApp ด้วยเบอร์มือถือและสร้างบัญชีที่ผูกกับเบอร์นั้น WhatsApp เวอร์ชันปกติใช้งานฟรีทั้งบน Android และ iOS สามารถส่งข้อความ โทรศัพท์ วิดีโอคอล และแชทกลุ่มได้

2. WhatsApp Business

WhatsApp Business เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง เป็นเวอร์ชันฟรีที่ดาวน์โหลดและใช้งานได้สูงสุด 4 อุปกรณ์ต่อพนักงาน ช่วยให้บริหารจัดการธุรกิจและตอบลูกค้าได้สะดวกขึ้น ประหยัดเวลาด้วยข้อความตอบกลับอัตโนมัติ เช่น คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

3. WhatsApp Business API

WhatsApp Business API ออกแบบมาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเชื่อมต่อระบบแบบมืออาชีพ แม้ WhatsApp Business จะใช้ฟรี แต่ WhatsApp API เป็นบริการเสียค่าใช้จ่ายโดยคิดตามจำนวนเซสชันและการโต้ตอบในแต่ละ 24 ชั่วโมง WhatsApp Business API รองรับปริมาณคำถามจำนวนมากและการเชื่อมต่อขั้นสูง เช่น การใช้ Chatbot และระบบ CRM

ฟีเจอร์ WhatsApp WhatsApp Business WhatsApp Business API
วัตถุประสงค์ การสื่อสารส่วนตัว ธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง องค์กรขนาดใหญ่
ฟรี/เสียค่าใช้จ่าย ฟรี ฟรี เสียค่าใช้จ่าย
บัญชีที่ยืนยันตัวตน ไม่มี มี มี
จำนวนผู้ใช้งาน 1 คน สูงสุด 4 คน ไม่จำกัด
ระบบอัตโนมัติ ไม่มี พื้นฐาน (ตอบกลับล่วงหน้า) ขั้นสูง
การเชื่อมต่อระบบอื่น ไม่มี จำกัด ขั้นสูง (Chatbot, CRM)
ตอบกลับด่วน / CTA ไม่มี มี มี
บรอดแคสต์ สูงสุด 256 รายชื่อ จำกัดเท่ากับ WhatsApp ปกติ มี
ข้อความการตลาด ไม่มี จำกัด มี

5 อันดับผู้ให้บริการส่งข้อความผ่าน WhatsApp API ที่ดีที่สุด

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการส่งข้อความผ่าน WhatsApp API ให้เลือกหลายเจ้า การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยาก เราได้รวบรวม 5 อันดับผู้ให้บริการ WhatsApp Business API ที่ได้รับความนิยม เพื่อให้คุณเปรียบเทียบและเลือกใช้ให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจ

1. EngageLab

EngageLab เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการส่งข้อความผ่าน WhatsApp API ที่ดีที่สุด ในฐานะแพลตฟอร์มสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าชั้นนำ EngageLab ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก Meta ให้เป็นผู้ให้บริการ WhatsApp API ระบบใช้งานง่าย ผสานรวมกับแอปพลิเคชันเดิมของคุณได้อย่างไร้รอยต่อ มอบประสบการณ์ที่ราบรื่น ด้วย API ที่ทรงพลัง คุณสามารถส่งข้อความหลากหลายรูปแบบ ส่งรหัส OTP และทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลกับผู้ใช้ WhatsApp กว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก

รีวิว EngageLab WhatsApp Business API

ราคา: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

  • ระบบคิดค่าบริการโปร่งใสและเป็นไปตามอัตราทางการของ Meta
  • แถมฟรีโควต้าสนทนาบริการลูกค้า 1,000 ครั้งต่อเดือน
  • รองรับการชำระเงินหลายสกุลเงินอย่างยืดหยุ่น
  • ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้า ราคาของ EngageLab WhatsApp
ดูรายละเอียด

ข้อดี:

  • ฟีเจอร์ทันสมัย รองรับความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม
  • ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลแน่นหนาและเป็นไปตามนโยบายของ WhatsApp
  • รองรับการเชื่อมต่อแบบ Omnichannel สามารถรวม WhatsApp กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ EngageLab ได้

ข้อเสีย:

  • มีค่าบริการเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่

2. Twilio

Twilio เป็นบริษัทด้านการสื่อสารผ่านคลาวด์จากสหรัฐอเมริกา ช่วยให้องค์กรเชื่อมต่อกับลูกค้าด้วย API และเครื่องมือสื่อสารหลากหลาย เช่น ส่ง SMS, เสียง, อีเมล, แชท และ WhatsApp

twilio-whatsapp-business-api

ราคา: Twilio คิดค่าบริการตามการใช้งาน โดยคิดเป็นรายเซสชัน ค่าบริการต่อข้อความแตกต่างกันตามแต่ละประเทศและประเภทข้อความ (ข้อความเซสชันหรือข้อความเทมเพลต)

ข้อดี:

  • Twilio รองรับการเชื่อมต่อกับ CRM และเครื่องมือการตลาดอัตโนมัติหลายประเภท
  • รองรับช่องทางสื่อสารหลากหลาย เช่น SMS, เสียง, วิดีโอ ทำให้องค์กรบริหารจัดการการสื่อสารทั้งหมดได้ในแพลตฟอร์มเดียว

ข้อเสีย:

  • รูปแบบการคิดค่าบริการ อาจมีราคาสูงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการส่งข้อความ WhatsApp จำนวนมาก

3. CallHippo

CallHippo เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการ WhatsApp API ที่ช่วยให้องค์กรผสาน WhatsApp เข้ากับกลยุทธ์ธุรกิจได้ง่าย แพลตฟอร์มนี้รองรับการส่งข้อความ WhatsApp แบบสองทาง พร้อมเนื้อหามัลติมีเดียและเทมเพลตที่ปรับแต่งได้

call-hippo

ราคา:

  • Starter – 18 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ผู้ใช้/เดือน
  • Professional – 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ผู้ใช้/เดือน
  • Ultimate – 42 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ผู้ใช้/เดือน

ข้อดี:

  • ฝ่ายบริการลูกค้าตอบสนองรวดเร็วและให้บริการอย่างมืออาชีพ
  • อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

ข้อเสีย:

  • อาจเกิดอาการหน่วงหรือแอปค้างเมื่อใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
  • ราคาค่อนข้างสูงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

4. Wati

Wati ช่วยให้ธุรกิจบริการลูกค้าและสื่อสารผ่าน WhatsApp ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถผสาน WhatsApp Business API เข้ากับระบบเดิมได้ง่าย เหมาะสำหรับงานบริการลูกค้า การขาย และการตลาด

wati-whatsapp-business-api

แพ็กเกจราคา: Wati มีให้เลือก 3 แพ็กเกจ:

  • Growth – 39 ดอลลาร์/เดือน
  • Pro – 79 ดอลลาร์/เดือน
  • Business – 229 ดอลลาร์/เดือน

ข้อดี:

  • เหมาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมืออย่าง WooCommerce และ Klaviyo ได้อย่างไร้รอยต่อ

ข้อเสีย:

  • แพ็กเกจราคาของ Wati ไม่ยืดหยุ่นนัก โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง
  • เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น Wati ยังขาดฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น ระบบอัตโนมัติด้านการตลาดหรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก

5. SleekFlow

SleekFlow คือแพลตฟอร์มโซเชียลอีคอมเมิร์ซที่ช่วยให้ธุรกิจขาย โปรโมต และบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านแชท พร้อมระบบอัตโนมัติสำหรับงานขายและการตลาดที่รองรับทั้ง Facebook, Instagram และ WhatsApp

sleekflow

รูปแบบราคา: SleekFlow มีให้เลือก 4 แพ็กเกจ:

  • Free – 0 ดอลลาร์
  • Pro – 149 ดอลลาร์/เดือน
  • Premium – 229 ดอลลาร์/เดือน
  • Enterprise – กำหนดราคาเอง

ข้อดี:

  • ช่วยให้ธุรกิจจัดการ sales funnel และติดตามยอดขายผ่านหลายช่องทาง เช่น Facebook, WhatsApp และ Instagram ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย:

  • SleekFlow มีราคาค่อนข้างสูงสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
  • ฝ่ายบริการลูกค้าอาจไม่ดีเท่ากับบางแพลตฟอร์มอื่น

เริ่มต้นใช้งาน WhatsApp API เพื่อส่งข้อความกับ EngageLab

นี่คือคู่มือทีละขั้นตอนสำหรับการเริ่มต้นใช้งาน WhatsApp Business API กับ EngageLab:

ขั้นตอนที่ 1. ไปที่ EngageLab และลงทะเบียน จากนั้นไปที่หน้าหลักแล้วคลิก ‘get start’ ใต้ WhatsApp เพื่อเข้าสู่บริการ

สร้างบัญชี WhatsApp Business API

ขั้นตอนที่ 2. คลิก ‘Register a business account’ ระบบจะนำคุณไปยังหน้าลงทะเบียนอย่างเป็นทางการของ Meta เมื่อเข้าสู่ระบบ Facebook แล้ว จะมีการแจ้งเตือนขออนุญาต ให้ดำเนินการตามคำแนะนำที่ปรากฏ

อนุญาตเพจ Facebook อย่างเป็นทางการสำหรับ WhatsApp Business API

ขั้นตอนที่ 3. กรอกข้อมูลธุรกิจของคุณในแบบฟอร์ม และสร้างพร้อมยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ในบัญชี

ลงทะเบียนบัญชีธุรกิจ

ขั้นตอนที่ 4. เมื่อคุณลงทะเบียนเสร็จ ระบบจะนำคุณไปยังหน้า overview โดยอัตโนมัติ กรุณาคลิก “ยืนยันหมายเลขที่ใช้ส่งข้อความ” เพื่อยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณลงทะเบียนกับ EngageLab

ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์กับ EngageLab

ขั้นตอนที่ 5. ตอนนี้คุณสามารถเริ่มส่งข้อความได้แล้ว หน้า overview จะเปลี่ยนจากคำแนะนำเป็นรายงาน คลิก ‘ส่งข้อความ’ เพื่อเริ่มใช้งาน WhatsApp Business API

ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์กับ EngageLab

ข้อดีของการใช้ EngageLab เพื่อส่งข้อความผ่าน WhatsApp API

EngageLab ช่วยให้คุณใช้ศักยภาพของ WhatsApp Business API ได้อย่างเต็มที่ พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าผ่าน:

1. การส่งข้อความที่หลากหลาย

ใช้งาน WhatsApp Business API ได้อย่างเต็มรูปแบบ ส่งข้อความได้ทั้งข้อความตัวอักษร รูปภาพ (JPEG, PNG, JPG) ไฟล์แนบ หรือวิดีโอ พร้อมปุ่ม CTA หลากหลายแบบเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าดำเนินการ

2. ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้

ฝังลิงก์ WhatsApp ลงในแอปต่าง ๆ ดึงบทสนทนาจากช่องทางอย่าง YouTube, Google ads, Facebook มายัง WhatsApp เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของลูกค้า

3. การตลาดที่มีส่วนร่วมและเฉพาะบุคคล

การตลาดผ่าน WhatsApp ช่วยเพิ่มอัตราการแปลง ใช้ฟีเจอร์อินเทอร์แอคทีฟ เช่น รูปภาพ วิดีโอ และ GIF เพื่อดึงดูดความสนใจในแคมเปญเปิดตัวสินค้า โปรโมชั่น และกิจกรรมต่าง ๆ

สรุป

WhatsApp Business API เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเชื่อมต่อกับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ ก็สามารถใช้ WhatsApp API เพื่อส่งข้อความจำนวนมากและสร้างการสื่อสารแบบเฉพาะบุคคลกับลูกค้าได้

ด้วยฟีเจอร์การส่งข้อความที่หลากหลาย การตลาดแบบอินเทอร์แอคทีฟ และการเชื่อมต่อขั้นสูง ธุรกิจสามารถเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า สร้างยอดขาย และสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้

หากต้องการใช้ WhatsApp Business API ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ EngageLab คือทางเลือกที่เหมาะสม ด้วยฟีเจอร์ใช้งานง่ายและมาตรการความปลอดภัยแน่นหนา สมัครใช้งานฟรีวันนี้ แล้วเริ่มส่ง WhatsApp Messages ได้เลย!

เริ่มใช้ฟรี