Emoji เปลี่ยนวิธีที่เราสื่อสารไปอย่างสิ้นเชิง เพราะช่วยเติมสีสัน อารมณ์ และความหมายให้กับข้อความดิจิทัลของคุณ คุณสามารถเรียนรู้วิธีใช้ Emoji ให้ถูกต้องในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการแชทกับเพื่อน ส่งอีเมล หรือสร้างแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจ Emoji จะช่วยให้การสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก Emoji ที่ควรใช้ เคล็ดลับและเทคนิคที่เป็นประโยชน์ พร้อมวิธีเพิ่ม Emoji ในข้อความบน Android, iOS, Windows และ macOS
Emoji คืออะไร? ทำไมควรใช้?
Emoji คือไอคอนดิจิทัลขนาดเล็กที่ใช้แสดงความคิด อารมณ์ หรือแนวคิดต่าง ๆ ในข้อความของคุณ Emoji ถือกำเนิดขึ้นที่ญี่ปุ่นช่วงปลายยุค 1990 แต่ปัจจุบันกลายเป็นภาษาสากลที่ข้ามขีดจำกัดด้านวัฒนธรรมและภาษาไปแล้ว การส่งข้อความด้วย Emoji จึงเป็นเรื่องปกติ เพราะแค่ไอคอนเล็ก ๆ ก็สื่อความหมายได้มากมาย หมวดหมู่ยอดนิยม เช่น หน้ายิ้ม ท่าทาง ธรรมชาติ อาหาร และธงประเทศต่าง ๆ
ทำไมต้องใช้ Emoji ?
ก่อนที่เราจะพาคุณไปดูวิธีใช้ Emoji บน Windows และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ คุณอาจสงสัยว่าทำไมต้องใช้ Emoji ? จริง ๆ แล้ว Emoji มีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร โดยประโยชน์หลัก ๆ ได้แก่
- เพิ่มมิติทางอารมณ์: ข้อความตัวหนังสืออย่างเดียวมักถ่ายทอดอารมณ์ได้ไม่ครบ อาจทำให้เข้าใจผิด แต่ถ้าใช้ Emoji ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มบริบททางอารมณ์ ทำให้ผู้รับเข้าใจความหมายของคุณได้ง่ายขึ้น เช่น หน้ายิ้มกว้างแสดงถึงความสุขและตื่นเต้น
- เพิ่มการมีส่วนร่วม: งานวิจัยพบว่าข้อความและโพสต์โซเชียลมีเดียที่มี Emoji จะได้รับความสนใจและการมีส่วนร่วมมากขึ้น คุณจึงสามารถใช้ Emoji เพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้
- สื่อสารได้รวดเร็วและกระชับ: Emoji สามารถสื่อแนวคิดที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องพิมพ์เป็นประโยคยาว ๆ ช่วยให้การสื่อสารของคุณรวดเร็วและกระชับขึ้น
- ข้ามขีดจำกัดทางภาษา: Emoji กลายเป็นภาษาสากลที่เชื่อมโยงผู้คนต่างภาษาและวัฒนธรรม หากคุณต้องการสื่อสารกับคนต่างชาติ การใช้ Emoji ในข้อความจะช่วยให้เข้าใจกันมากขึ้น
ใช้ Emoji อย่างชาญฉลาดในข้อความของคุณ
อย่างที่เห็นว่า Emoji ช่วยเสริมประสิทธิภาพการสื่อสารของคุณ แต่จะใช้ Emoji บน Windows และระบบอื่น ๆ อย่างไรให้เหมาะสม? ในส่วนนี้ เรามีเคล็ดลับและเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณใช้ Emoji ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ควรใส่ Emoji ที่ไหน?
สิ่งแรกที่ควรคิดคือควรใช้ Emoji ในบริบทไหน Emoji เป็นองค์ประกอบภาพที่มักพบใน:
โพสต์โซเชียลมีเดีย:
Emoji ช่วยให้โพสต์บนโซเชียลมีเดียน่าสนใจมากขึ้น แม้แต่แบรนด์ใหญ่ ๆ ก็ยังใช้ Emoji เพื่อให้โพสต์ดูสะดุดตาและเข้าถึงผู้คนง่ายขึ้น
ข้อความแชท:
การเพิ่ม Emoji ในข้อความแชทจะช่วยสื่อเจตนาและอารมณ์ของคุณได้ชัดเจนขึ้น ทำให้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น
อีเมล:
แม้ Emoji จะไม่ค่อยพบในอีเมลทางการ แต่ในแคมเปญการตลาดผ่านอีเมลกลับนิยมใช้ Emoji โดยเฉพาะในหัวข้ออีเมลซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการเปิดอ่านได้มากขึ้น
ควรใช้ Emoji กี่ตัวในข้อความของคุณ?
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญของ วิธีใช้ Emoji อย่างชาญฉลาด คือการเลือกจำนวน Emoji ที่เหมาะสมในแต่ละข้อความ คำตอบขึ้นอยู่กับบริบทและผู้รับข้อความของคุณ โดยมีแนวทางคร่าว ๆ ดังนี้:
ข้อความส่วนตัว: ในกรณีนี้ คุณสามารถใช้ Emoji ได้ตามต้องการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนิทสนมกับผู้รับ หากมากเกินไปอาจดูรกหรือไม่เป็นทางการ
ข้อความทางธุรกิจ: หากเป็นการสื่อสารในเชิงธุรกิจหรืออาชีพ ควรจำกัดการใช้ Emoji ไว้เพียง 1-2 ตัวต่อข้อความ เพื่อเพิ่มความเป็นมิตรโดยไม่เสียความเป็นมืออาชีพ
โพสต์บนโซเชียลมีเดีย: สำหรับโซเชียลมีเดีย สามารถใช้ Emoji ได้ตามความเหมาะสมกับแพลตฟอร์มและเนื้อหา เช่น ใส่ Emoji 1-2 ตัวเพื่อให้โพสต์โดดเด่นขึ้น แต่หากมากเกินไปอาจทำให้เสียความน่าสนใจของเนื้อหา
ควรเลือกใช้ Emoji แบบไหน?
ขั้นตอนถัดไปของ วิธีใช้ Emoji อย่างชาญฉลาด คือการเลือกประเภท Emoji ที่เหมาะสมกับผู้รับและอารมณ์ของคุณ ลองดูตัวอย่างการเลือกใช้ Emoji ในแต่ละสถานการณ์:
สำหรับเพื่อนและครอบครัว: สามารถใช้ Emoji สนุก ๆ หรือแนวขี้เล่น เช่น หัวใจ หรือหน้ายิ้ม เหมาะกับการสื่อสารที่เป็นกันเอง
สำหรับเพื่อนร่วมงานหรือคู่ค้าทางธุรกิจ: หากต้องการความเป็นมืออาชีพ แนะนำให้ใช้ Emoji กลาง ๆ เช่น สัญลักษณ์ยกนิ้ว หน้ายิ้ม หรือเครื่องหมายถูก
สำหรับอารมณ์ดีหรือบวก: ใช้ Emoji หน้ายิ้ม หัวใจ พระอาทิตย์ หรืออะไรก็ได้ที่แสดงถึงความสุขและความตื่นเต้น
สำหรับอารมณ์เศร้าหรือกังวล: หากรู้สึกไม่สบายใจ สามารถใช้ Emoji หน้าบึ้ง หรือ Emoji น้ำตาได้
วิธีเพิ่ม Emoji ในแต่ละอุปกรณ์ (Windows/macOS/iPhone/Android)
ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะได้เรียนรู้วิธีเพิ่ม Emoji ลงในข้อความบน Android และระบบปฏิบัติการอื่น ๆ แล้ว ซึ่งขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายมากในทุกแพลตฟอร์ม มาดูวิธีการกันเลย:
1 Windows
กด Win + . (จุด) เพื่อเปิดคีย์บอร์ด Emoji จากนั้นคลิกเลือก Emoji ที่ต้องการเพิ่มลงในข้อความของคุณได้เลย
2 Mac
กด Control + Command + Space เพื่อเปิดคีย์บอร์ด Emoji จากนั้นคลิกเลือก Emoji ที่ต้องการใส่ในข้อความของคุณ
3 iPhone
แตะ ไอคอนลูกโลกหรือหน้ายิ้ม บนคีย์บอร์ดเพื่อเข้าสู่ Emoji คุณยังสามารถใช้ช่อง "ค้นหา Emoji " เพื่อค้นหา Emoji เฉพาะที่ต้องการได้อีกด้วย
4 Android
แตะ ไอคอนหน้ายิ้ม บนคีย์บอร์ดของคุณ ซึ่งมักจะอยู่ข้าง ๆ แถบ space bar
นอกจาก Emoji ที่มีภายในเครื่องแล้ว คุณยังสามารถใช้งานคลัง Emoji และเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อค้นหา Emoji ที่ต้องการได้ หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมคือ Emojipedia ซึ่งมีรายการ Emoji ครบถ้วนให้คุณคัดลอกและวางลงในข้อความได้ทันที
วิธีใช้ Emoji ใน EngageLab
EngageLab มีเครื่องมือครบครันเพื่อช่วยให้คุณสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงควรเรียนรู้วิธีใช้ Emoji ในแพลตฟอร์มนี้ เพราะ Emoji สามารถช่วยเพิ่มความสำเร็จในการสื่อสารของคุณได้ มาดูวิธีเพิ่ม Emoji ใน EngageLab อย่างมีประสิทธิภาพกัน:
EngageLab อีเมล
หากต้องการเพิ่ม Emoji ในอีเมลของคุณใน EngageLab ให้เริ่มจากการสร้างเทมเพลตใหม่ ในช่องหัวเรื่อง (Subject) ให้คัดลอกและวาง Emoji ที่ต้องการเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้รับ
EngageLab ส่ง SMS
ขณะสร้างแคมเปญส่ง SMS คุณสามารถเพิ่ม Emoji ได้เช่นกัน เพียงสร้างเทมเพลตแล้วคัดลอกและวาง Emoji ที่ต้องการลงในข้อความ คุณจะเห็นตัวอย่างว่าผู้รับจะเห็น Emoji อย่างไรในหน้าตัวอย่างข้อความ
EngageLab การแจ้งเตือนแบบพุช
ใน EngageLab คุณสามารถเพิ่ม Emoji ลงในการแจ้งเตือนแบบพุชได้อย่างง่ายดาย เพียงเข้าไปที่เมนูคลิก ผลักดัน & ข้อความแจ้งเตือน เพื่อเริ่มต้นสร้างการแจ้งเตือนแบบพุช จากนั้นคลิกไอคอนหน้ายิ้มเพื่อเปิดคีย์บอร์ด Emoji และเลือก Emoji ที่ต้องการใส่ลงไป
EngageLab WebPush
คุณสามารถเพิ่ม Emoji ลงในการแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บไซต์ของคุณใน EngageLab ได้เช่นกัน เพียงเข้าไปที่เมนูคลิก ผลักดัน & ข้อความแจ้งเตือน เพื่อเริ่มต้นสร้าง หลังจากนั้นคลิกที่ไอคอนหน้ายิ้มที่อยู่ข้างช่องกรอกข้อความเพื่อเปิดคีย์บอร์ด Emoji จากนั้นเลือก Emoji ที่ต้องการด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว
ข้อควรพิจารณาเมื่อใช้ Emoji ใน EngageLab
เมื่อคุณกำลังสร้างข้อความที่มี Emoji โปรดคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้:
- ความสอดคล้อง: ใช้ Emoji เฉพาะที่สอดคล้องกับโทนเสียงของแบรนด์คุณเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณเน้นเรื่องความยั่งยืน ควรเลือกใช้ Emoji ที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ
- การเข้าถึง: ควรคำนึงเสมอว่าผู้ใช้บางรายอาจไม่เข้าใจความหมายของ Emoji บางตัว ดังนั้นควรเลือกใช้ Emoji ที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป
- การทดสอบ: ควรตรวจสอบตัวอย่างข้อความของคุณบนอุปกรณ์หลากหลายประเภท เพื่อให้แน่ใจว่าแสดงผลได้ถูกต้อง
สรุปใจความสำคัญ
ตอนนี้คุณได้เรียนรู้วิธีใช้ Emoji Emoji ที่เหมาะกับแต่ละโอกาส และวิธีใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน EngageLab แล้ว อย่าลืมว่า Emoji ไม่ใช่แค่ไอคอนสนุก ๆ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารของคุณอีกด้วย สมัครใช้งาน EngageLab วันนี้ เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ครบครันที่รองรับทุกแพลตฟอร์ม!
เริ่มใช้ฟรี






