avatar

มินตรา

อัปเดต: 2025-08-13

2632 การดู, 5 min การอ่าน

คุณรู้หรือไม่ว่า การแจ้งเตือนแบบพุช (push notification) สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ได้มากถึง 88% เมื่อเทียบกับการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน? แอปและธุรกิจที่เลือกใช้การแจ้งเตือนแบบพุชจะมียอด Conversion และ Engagement สูงขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับกลยุทธ์การตลาดให้เหนือกว่าเดิม ถือเป็นวิธีที่ทันสมัยที่สุดในการเสริมศักยภาพองค์กร อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การแจ้งเตือนแบบพุช จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อมีการปรับแต่งให้เหมาะกับประสบการณ์ของผู้ใช้ ดังนั้น เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ จำนวนตัวอักษรของการแจ้งเตือนแบบพุช สำหรับแอปและช่องทางต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายและการมองเห็น

Push Notification จำนวนตัวอักษร

Part 1: ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ Push Notification คืออะไร?

การแจ้งเตือนแบบพุชจะทำงานได้ดีเมื่อจำนวนตัวอักษรไม่เกินขีดจำกัดที่อุปกรณ์ของผู้ใช้รองรับ หากข้อความแจ้งเตือนแบบพุชมีจำนวนตัวอักษรเกินกำหนด ส่วนที่เกินจะถูกตัดออก ส่งผลให้การแจ้งเตือนนั้นไม่สามารถสื่อสารจุดประสงค์หลักและไม่ดึงดูดให้ผู้ใช้เปิดอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้

1. ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ App Push Notification

การแจ้งเตือนแบบพุชถูกใช้งานหลักในแอปมือถือ โดยจำนวนตัวอักษรของ push notification บนแอปมือถือจะแตกต่างจาก push notification บนเว็บ ขนาดไอคอนแจ้งเตือนจะเท่ากันทั้งแอปและเว็บ คือ 80X80px และขนาดรูปภาพควรเป็น 360X180px โดยเฉลี่ยสามารถเพิ่มปุ่มได้ 2 ปุ่มใน push notification

ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ Push Notification บน iOS

จำนวนตัวอักษรของ push notification บน iOS จำกัดไว้ที่ 178 ตัวอักษร รวมถึง push notification บน iOS 10 และเวอร์ชันหลังจากนั้น 178 ตัวอักษร จะเทียบเท่าประมาณ 4 บรรทัด โดยไม่มีหัวข้อหรือคำอธิบายเพิ่มเติม

ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของการแจ้งเตือนแบบพุชบน iOS

ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ Push Notification บน Android

จำนวนตัวอักษรของ push notification บน Android คือ 65 ตัวอักษร สำหรับหัวข้อ หากเกินกว่านี้จะถูกตัดออก และ Android ยังอนุญาตให้ใส่คำอธิบายได้สูงสุด 240 ตัวอักษร

ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของการแจ้งเตือนแบบพุชบน Android

2. ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ Web Push Notification

การแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บ ประกอบด้วยหัวข้อและคำอธิบายที่ไม่เกิน 75 ตัวอักษร และคำอธิบายไม่เกิน 225 ตัวอักษร โดยขึ้นอยู่กับเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการ และประเภทอุปกรณ์ของผู้ใช้

ต่อไปนี้คือรายละเอียดขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของการแจ้งเตือนแบบพุชบนเว็บสำหรับแต่ละระบบและอุปกรณ์:

อุปกรณ์ Windows จะรองรับจำนวนตัวอักษรแตกต่างกันในแต่ละเวอร์ชัน และยังขึ้นอยู่กับว่าการแจ้งเตือนนั้นมีภาพประกอบ (hero image) หรือไม่ ดูรายละเอียดขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ push notification บน Windows ได้ดังนี้:

อุปกรณ์ จำนวนตัวอักษรหัวข้อสูงสุด จำนวนตัวอักษรคำอธิบายสูงสุด
Windows 7, Chrome 50 130
Windows 10, Chrome 69 139
Windows 8, Chrome 57 126
Windows 11 ขึ้นไป 70 141
Firefox บน Windows 11 ขึ้นไป 54 200

ตามที่กล่าวไว้ในตารางด้านบน จำนวนตัวอักษรของการแจ้งเตือนแบบพุชจะแตกต่างกันในแต่ละเวอร์ชันของ Windows เช่น Windows 7, 8, 10 และ 11 จุดเด่นของการแจ้งเตือนแบบพุชบน Chrome คือรองรับการแสดง HERO IMAGE ในขณะที่ Firefox ไม่รองรับ HERO IMAGE และปุ่มต่าง ๆ ดังนั้นเมื่อออกแบบ WEB PUSH NOTIFICATION ควรคำนึงถึงความแตกต่างของแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ Web Push Notification บน Android

สำหรับ Android Chrome จำนวนตัวอักษรที่เหมาะสมของ WEB PUSH NOTIFICATION คือ 47 ตัวอักษร และคำอธิบายควรไม่เกิน 50 ตัวอักษร (รวม HERO IMAGE) แต่หากไม่ได้ใช้ HERO IMAGE สามารถขยายข้อความได้สูงสุด 400 ตัวอักษร รายละเอียดของเบราว์เซอร์อื่น ๆ มีดังนี้:

  • Firefox: หัวข้อ 30 ตัวอักษร และคำอธิบาย 65 ตัวอักษร
  • Opera: หัวข้อ 50 ตัวอักษร และคำอธิบายไม่เกิน 65 ตัวอักษร
  • Yandex: หัวข้อไม่เกิน 35 ตัวอักษร และข้อความ 65 ตัวอักษร

Web Push Notification บน iOS

iOS อนุญาตให้ส่ง WEB NOTIFICATION ได้เมื่อผู้ใช้กดอนุญาต โดยผู้ใช้ต้องเพิ่มเว็บไซต์ลงในหน้าโฮมสกรีนเพื่อรับการแจ้งเตือน Chrome, Safari และ Edge บน iPhone และ iPad เวอร์ชัน 16.4 ขึ้นไป รองรับ WEB NOTIFICATION การแจ้งเตือนแบบพุชบน iOS จะคล้ายกับ Android แต่จะแสดงชื่อเว็บไซต์ต่างกัน ดังนั้นความยาวที่เหมาะสมคือ 47 ตัวอักษร และข้อความควรไม่เกิน 50 ตัวอักษรเมื่อมี HERO IMAGE

ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ Web Push Notification บน Mac

Mac รองรับจำนวนตัวอักษรที่แตกต่างกันในแต่ละเบราว์เซอร์ โดย Mac Chrome หัวข้อควรไม่เกิน 43 ตัวอักษร และข้อความ 86 ตัวอักษร Mac Firefox รองรับหัวข้อ 34 ตัวอักษร และคำอธิบาย 121 ตัวอักษร Mac Safari แสดงหัวข้อ 49 ตัวอักษร และข้อความไม่เกิน 103 ตัวอักษร

หมายเหตุ: Mac Safari และ Firefox ไม่รองรับ HERO IMAGE และปุ่ม

3. ขีดจำกัดจำนวนตัวอักษรของ Push Notification บน Social Platform

จำนวนตัวอักษรของการแจ้งเตือนแบบพุชใน Social Platform จะขึ้นอยู่กับระบบหรือเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน เช่น Facebook จะมีจำนวนตัวอักษรที่ต่างกันระหว่างมือถือและเว็บเบราว์เซอร์ เช่นเดียวกับ LinkedIn และ Discord ที่จำนวนตัวอักษรจะแตกต่างกันตามอุปกรณ์และเบราว์เซอร์

ส่วนที่ 2: วิธีสร้าง Push Notification ที่ดี

การปรับแต่ง PUSH NOTIFICATION ให้เหมาะสมกับจำนวนตัวอักษร จะช่วยให้คุณสร้างการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือเคล็ดลับอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ NOTIFICATION ของคุณน่าสนใจและเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางมากขึ้น

วิธีสร้าง Push Notification ที่ดี
  • 1

    เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย

    สร้างการแจ้งเตือนแบบพุชหลังจากรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้ ความชอบ และพฤติกรรมการใช้งาน ใช้ข้อมูลเหล่านี้แบ่งกลุ่มเป้าหมาย เพื่อส่งข้อความที่ตรงใจ เช่น แอปเกมอาจส่งข้อความแจ้งเตือนที่ต่างกันให้กับผู้ใช้ทั่วไปและเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์
  • 2

    ชัดเจนและกระชับ

    การแจ้งเตือนแบบพุชควรเป็นข้อความสั้น ๆ เข้าใจง่ายและตรงประเด็น หากมีรายละเอียดเกินจำเป็นจะทำให้ผู้ใช้ไม่สนใจ ควรเน้นเพียงเรื่องเดียวและทำให้น่าสนใจเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้คลิก
  • 3

    ใช้ถ้อยคำที่ทรงพลัง

    ใช้คำที่โดดเด่นและสอดคล้องกับแคมเปญ เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับผู้ใช้ คำพูดมีอิทธิพลสูงและสามารถดึงดูดความสนใจได้ทันที เช่น ยินดีด้วย, ข้อเสนอพิเศษ, ส่วนลด, ขายด่วน, จำกัด ฯลฯ
  • 4

    จังหวะเวลาคือหัวใจ

    จังหวะเวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การแจ้งเตือนแบบพุชมีประสิทธิภาพ วางแผนส่งข้อความเมื่อผู้ใช้กำลังใช้งานอุปกรณ์ และอยู่ในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูง หลีกเลี่ยงการส่งข้อความช่วงดึกหรือช่วงที่ผู้ใช้ไม่พร้อมรับ
    เวลาที่เหมาะสมในการส่งการแจ้งเตือนแบบพุช
  • 5

    ใส่ Call-to-Action ที่ชัดเจน

    ทุกการแจ้งเตือนแบบพุชควรมี Call-to-Action ที่ดึงดูดใจ กระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการ เปิดแอป หรือคลิกที่ลิงก์ คำกระตุ้นควรชัดเจนและตรงไปตรงมา เช่น ดูรายละเอียด, ช้อปเลย, รับสิทธิ์ทันที, สมัครเลย, เริ่มต้น ฯลฯ
  • 6

    ทดสอบแบบ A/B

    การทดสอบเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในแคมเปญการแจ้งเตือนแบบพุช ดำเนินการทดสอบ A/B เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ของเวลา เนื้อหา และสไตล์ข้อความที่แตกต่างกัน วิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างละเอียดเพื่อเลือกกลยุทธ์ที่สร้างการมีส่วนร่วมสูงสุด
    การทดสอบ A/B สำหรับการแจ้งเตือนแบบพุช
  • 7

    ใช้หลายช่องทาง

    เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้ใช้ ควรเปิดใช้งานหลายช่องทางสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุช ด้วย Notification Channels คุณสามารถควบคุมและจัดหมวดหมู่การแจ้งเตือนแต่ละประเภทได้ เครื่องมือที่เชื่อถือได้อย่าง EngageLab ช่วยให้เข้าถึงหลายช่องทางผ่านแพลตฟอร์มเดียว เพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพ
  • 8

    เลือกผู้ให้บริการที่ปลอดภัย

    เลือกผู้ให้บริการแจ้งเตือนแบบพุชที่ปลอดภัย ผู้ให้บริการที่ดีควรมีมาตรการปกป้องข้อมูลผู้ใช้และเนื้อหาข้อความระหว่างส่ง คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่าง EngageLab ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือแจ้งเตือนแบบพุชที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้

ส่วนที่ 3: ยกระดับการแจ้งเตือนแบบพุชของคุณ - EngageLab ช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น!

การสร้างแคมเปญแจ้งเตือนแบบพุชที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยหลายปัจจัยร่วมกัน ในเรื่องนี้ ผู้ให้บริการแจ้งเตือนแบบพุชอย่าง EngageLab มอบช่องทางการสื่อสารที่แข็งแกร่งสำหรับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ฟีเจอร์แจ้งเตือนแบบพุช Omnichannel ของ EngageLab ออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้ใช้สูงสุด เป็นโซลูชันครบจบในที่เดียวสำหรับการจัดการข้อมูลและการแจ้งเตือนแบบพุชของคุณ

EngageLab คือผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันระดับโลกที่มีฟีเจอร์เฉพาะตัวและเชื่อถือได้

แพลตฟอร์ม EngageLab สำหรับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าระดับโลก

1. ข้อได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและบริการที่เหนือกว่า

EngageLab ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้ใช้ (user conversion) ได้สูงสุดด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ครอบคลุมทุกมิติของแคมเปญการแจ้งเตือนแบบพุช

  • อัตราการส่งถึงสูง: อัตราการส่งถึงที่สูงคือหัวใจของความสำเร็จในการทำแคมเปญการแจ้งเตือนแบบพุช ยิ่งส่งถึงมาก ยิ่งเพิ่มโอกาสเปลี่ยนผู้ใช้ EngageLab รองรับบริการช่องทาง App push, web push, อีเมล และ SMS เพื่อให้คุณนำหน้าคู่แข่ง
  • คุ้มค่า: ระบบคิดค่าบริการแบบแบ่งระดับ (grading charging mechanism) ช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนในทุกช่องทาง
  • ช่องทางหลากหลายเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น: เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์ม ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงผู้ใช้ได้ทันที
  • รองรับการส่งข้อความระดับหมื่นล้าน: EngageLab รองรับการส่งข้อความหลายล้านข้อความต่อวินาที แสดงถึงความพร้อมและประสิทธิภาพของระบบ
  • API และ SDK ที่ใช้งานง่าย: มี API และ SDK ที่ใช้งานง่ายสำหรับนักพัฒนา ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้น
  • บริการสนับสนุนด้านเทคนิค: EngageLab มอบโซลูชันที่สมบูรณ์แบบสำหรับแคมเปญของคุณ พร้อมบริการสนับสนุนด้านเทคนิคแบบ 1 ต่อ 1

2. บริการช่องทางการส่งข้อความ

💡 AppPush: EngageLab ใช้กลยุทธ์การแจ้งเตือนแบบพุชที่แม่นยำและชาญฉลาดที่สุดเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่

  • 1. การแจ้งเตือนตามพฤติกรรมผู้ใช้
  • 2. การแจ้งเตือนตามลักษณะผู้ใช้
  • 3. การแจ้งเตือนเมื่อบริการมีการเปลี่ยนแปลง
  • 4. การแจ้งเตือนตามตำแหน่งที่ตั้ง

💡 WebPush: EngageLab ส่งการแจ้งเตือนแบบพุชผ่านเว็บแบบเรียลไทม์และแม่นยำ ธุรกิจสามารถส่งทั้งการตลาดและบริการ พร้อมเพิ่มอัตราการสมัครรับการแจ้งเตือนได้สูงถึง 70% Web Push แบ่งเป็น 4 ประเภท

  • 1. การแจ้งเตือนโปรโมชั่น
  • 2. แจ้งเตือนอัปเดตเนื้อหา
  • 3. แจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงบริการ
  • 4. กระตุ้นคำสั่งซื้อที่ไม่สมบูรณ์

EngageLab รองรับทุกเบราว์เซอร์ ทุกแพลตฟอร์ม Shopify, WordPress, Magento และเว็บไซต์อิสระอื่น ๆ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณสามารถส่ง Web Push Notification ได้

💡 อีเมล: ระบบการตลาดอีเมลของ EngageLab สามารถส่งอีเมลได้ทั่วโลกภายใน 3 วินาที พร้อมฟีเจอร์เสริมอีกมากมาย

💡 SMS: บริการ SMS Marketing เป็นโซลูชันการตลาดที่รวดเร็วและเฉพาะบุคคล รองรับ 4 ประเภท ได้แก่

  • 1. รหัสผ่านครั้งเดียว (OTP)
  • 2. การตลาดและโปรโมชั่น
  • 3. การแจ้งเตือนระบบ
  • 4. SMS ธุรกรรม

3. บริการระดับโลกและความปลอดภัยของข้อมูล

EngageLab เป็นผู้นำระดับโลกด้วยบริการระดับพรีเมียม เช่น IP เฉพาะ, การมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์, การเชื่อมต่อพิเศษสำหรับต่างประเทศ และฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ อีกมากมาย ด้านความปลอดภัยของผู้ใช้ มีการเก็บข้อมูลที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและนโยบายท้องถิ่น

push notifications ทั่วโลก

บทสรุป

การทราบจำนวนตัวอักษรที่เหมาะสมสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุชในแต่ละอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ จะช่วยให้คุณสร้างแคมเปญที่ข้อความไม่ถูกตัดขาดเมื่อถึงมือผู้ใช้ ป้องกันข้อความขาดหายและสื่อสารได้ครบถ้วน

คุณสามารถนำเทคนิคข้างต้นไปปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนแบบพุชของคุณ หากต้องการบริหารกลยุทธ์การแจ้งเตือนแบบพุชโดยเน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง EngageLab คือโซลูชันครบวงจรที่คุณสามารถทดลองใช้งานได้ฟรีทันที ไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อพอใจแล้วสามารถขยายการใช้งานตามความต้องการของธุรกิจ

เริ่มต้นใช้งานฟรี